10 วิธีเก็บเงินง่าย ๆ

วิธีการเก็บเงิน ควรจะฝึกเก็บได้ในทุกช่วงวัย ทั้งวัยเรียน วัยทำงาน ตลอดจนถึงวัยเกษียณ การเก็บเงินเป็นสิ่งที่สำคัญในอนาคตหรือในยามฉุกเฉินของเรา ซึ่งต่อจากนี้จะแชร์วิธีการเก็บเงิน ทั้ง 10 วิธี รับรองว่าง่าย สนุกกับการออม หากทำตามแล้วได้ผลแน่นอน พร้อมกับฝึกนิสัยการเก็บเงิน มาฝึกนิสัยการออมเงินในตอนนี้เพื่ออนาคตกันค่ะ 1. ตั้งเป้าหมายการเงิน การวางแผนทางการเงิน คือจะต้องรู้ว่าตนเองวางแผนจะนำเงินนั้นไปใช้เพื่ออะไร และทำให้ไม่นำเงินออกมาใช้งานไม่ผิดจุดประสงค์ เช่น เงินกองที่หนึ่งเพื่อซื้อบ้าน เงินกองที่สองเพื่อไปเที่ยว เงินกองที่สามเพื่ออนาคต เป็นต้น 2. หยอดกระปุกออมสิน เป็นวิธีการที่ใครหลาย ๆ คนได้ฝึกออมเงินวิธีนี้ตั้งแต่เด็ก ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีการที่ง่ายและได้ผลมากที่สุด เช่น ในแต่ละวันตั้งไว้ว่าจะใช้เงินจำนวนหนึ่ง หากเหลือในแต่ละวัน ก็นำมาหยอดกระปุกไว้ หรือหากกระปุกเดียวน้อยเกินไป ก็แบ่งกระปุกตามแต่ละเป้าหมายของเราก็ทำได้เช่นกัน ทำให้เห็นพัฒนาการการออมเงินมากขึ้นในแต่ละวันอีกด้วย เทคนิคเพิ่มกำลังใจ กระปุกใส หรือกระปุกใบขนาดกลาง ๆ รับรองได้ผลแน่นอน 3. เปิดบัญชีฝากประจำ เป็นการสร้างนิสัยการออมการเก็บเงินที่ดีมากวิธีหนึ่ง การฝากเงินทุก ๆ เดือน เดือนละขั้นต่ำ 500 บาท ฝากได้ตั้งแต่ 3-36 เดือน […]
5 สิ่งควรรู้ก่อนลงทุน มือใหม่ควรอ่าน

การลงทุนเป็นสิ่งที่กำลังเป็นทางเลือกหนึ่งการสร้างรายได้ให้กับเราได้ แต่สิ่งที่เราควรจะทราบก่อนจะลงทุนจริง ๆ นั้นมีอยู่ 5 ข้อสำคัญเลยค่ะ สำหรับมือใหม่ที่ควรจะศึกษารายละเอียด และทำความเข้าใจก่อนที่จะลงทุนจริงๆ เพื่อให้ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายหรือขาดทุนไป ดังนั้นเราไปเริ่มดู 5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนลงทุนกันได้เลยค่ะ 1. ทำไมถึงอยากลงทุน เราต้องทราบว่า ทำไมถึงเราอยากลงทุน เป้าหมายของเรานั้นคืออะไร และรูปแบบการลงทุนที่เราต้องการนั้นเป็นอย่างไร ทำไมถึงเราอยากลงทุน ต้องการลงทุนเท่าไรต่อเดือนหรือต่อปี ลงทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม นอกเหนือจากงานประจำ เป้าหมายการลงทุน ต้องการลงทุนเพื่ออะไรในอนาคต ตัวอย่างเช่น ลงทุนเพื่อไว้ใช้ในยามเกษียณ ลงทุนเพื่อเก็บเงินก้อนเพื่อครอบครัว ลงทุนเพื่อมีเงินปันผล เป็นต้น สุดท้ายเราควรศึกษาเงื่อนไขและความเสี่ยงของการลงทุนในแต่ละประเภท เช่น เงินที่ลงทุนได้, รับความเสี่ยงในการลงทุนได้แค่ไหน การลงทุนหากขาดทุนจะรับได้เท่าไร, ต้องการผลตอบแทนเท่าไร 2. ลงทุนแบบไหนดี การลงทุนหรือการเล่นหุ้นมีหลายแบบ วันนี้จะนำมีแบ่งประเภท 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่ เหมาะกับนักลงทุนที่มองระยะยาว ซึ่งการลงทุนระยะยาว จะมีการจ่ายเงินปันผล หรือหุ้นที่จะเติบโตในระยะยาว การเทรดประเภทนี้ ตัวอย่างเช่น 3. เลือกโบรกเกอร์ ซึ่งสามารถเปิดบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) นักลงทุนควรรู้รายละเอียดดังนี้ ข้อดี […]
ก่อหนี้อย่างไร ให้เกิดความมั่งคั่งกับชีวิตของเรา

การก่อหนี้ เป็นเรื่องที่เราทุกคนจะต้องระมัดระวัง แต่การมีหนี้สินไม่ใช่เป็นเรื่องที่แย่เสมอไป แต่เราอาจจะต้องใส่ใจในการใช้จ่ายเงินของเรา เพื่อจะได้ไม่ส่งผลต่อชีวิตทางการเงินของเราในอนาคตได้ แม้ว่าการก่อหนี้บางครั้งอาจช่วยให้เกิดความมั่งคั่งได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่หากไม่จัดการกับการก่อหนี้อย่างรอบคอบและมีการวางแผนให้เหมาะสม อาจทำให้เกิดปัญหาในระยะยาว เรามาดูขั้นตอนที่จะช่วยในการจัดการกับการสร้างหนี้ให้เกิดความมั่งคั่งกับชีวิตของคุณได้ ได้แก่ 1. สร้างแผนการเงินเหมาะกับตัวเรา เป็นขั้นตอนแรกเลยที่เราจะต้องตรวจสอบรายรับและรายจ่ายของเราในแต่ละเดือน เพื่อทำความเข้าใจในสภาพการเงินปัจจุบันของเรา รวมไปถึงเรื่องการสร้างงบประมาณกำหนดเป้าหมายการเงินที่ต้องการให้ละเอียด และการชดเชยหนี้ที่เหลือ อีกหนึ่งอย่างคือการวิเคราะห์สถานการณ์การเงินของตัวเราเอง เพื่อเป็นการตรวจสอบรายรับและรายจ่ายปัจจุบันขอตัวเรา รวมถึงการตรวจสอบหนี้สินที่เรามี และเป้าหมายทางการเงินที่เราต้องการให้เกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งปัจจัยทางการเงินอื่น ๆ เช่น เป้าหมายการลงทุน การออกแบบงบประมาณ และการสำรองเงินฉุกเฉิน 2. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปก่อน จะเป็นขั้นตอนถัดมาในการพิจารณาลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เพื่อเป็นการเก็บเงินสำหรับการชดเชยหนี้ และเป็นการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้เงินในเรื่องต่าง ๆ อีกด้วย ได้แก่การสูบบุหรี่ การทานอาหารนอกบ้านทุกมื้อ หรือการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็น เรามาดูว่าเราสามารถลดค่าใช้จ่ายอะไรไปได้บ้าง 3. ติดต่อเจ้าหนี้ เพื่อเป็นการผ่อนผัน การติดต่อเจ้าหนี้ หรือสถาบันทางการเงิน เป็นการเจรจาในการผ่อนผันหนี้สิน และหากคุณมีการผิดนัดชำระหนี้ หรือไม่สามารถชำระเงินตามกำหนดได้ ควรจะต้องรีบติดต่อเจ้าหนี้และแสดงความจริงให้เข้าใจสถานการณ์ของคุณ บางครั้งเจ้าหนี้อาจให้เรายืดเวลาชำระหนี้ หรือจัดวางแผนการชำระหนี้ที่สามารถตรงกับสภาพการเงินของเราได้ สอบถามเกี่ยวกับตัวเลือกการผ่อนผันกับทางเจ้าหนี้และสอบถามเกี่ยวกับตัวเลือกที่มีให้สำหรับการผ่อนผันหนี้ เช่น การเพิ่มระยะเวลาการชำระหนี้ การลดอัตราดอกเบี้ย […]
มนุษย์เงินเดือนแบบเรา จะต้องไม่พลาดใช้สิทธิลดหย่อนภาษี

การเสียภาษีเป็นหน้าที่ของผู้ที่มีรายได้ ยิ่งใครที่มีรายได้มาก ก็จะต้องเสียภาษีมากตามไปด้วย ดังนั้นเราจะต้องมาคำนวณดูว่ามีรายได้และรายจ่ายมากน้อยเท่าไร ดังนั้นจึงทำให้มีกฎหมายที่ให้สิทธิประโยชน์กับผู้ที่มีเงินได้สำหรับทุกคนในการลดหย่อยภาษี ซึ่งการวางแผนใช้สิทธิลดหย่อนภาษีพร้อม ๆ ไปกับการสร้างความมั่นคง ทางการเงินที่เป็นสิ่งที่ทำควบคู่กันได้ ซึ่งการทำให้รายจ่ายน้อยที่สุดก็เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เช่นกัน ในบทความนี้จะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการวางแผนภาษีฉบับมนุษย์เงินเดือนเลย 1. ประเมินเงินได้ตลอดทั้งปี เพื่อคำนวณภาษี การคำนวณเงินได้ตั้งแต่ต้นปีด้วยการนำเงินเดือนของช่วงปีที่ผ่านมาและโบนัสที่ได้รับมาทั้งหมดมาคำนวณว่า ตลอดทั้งปีเรามีรายได้เท่าไร จากนั้นเราก็จะสามารถคาดการณ์รายได้ที่น่าจะเพิ่มขึ้นในปีนี้ เพื่อประเมินเงินได้และคำนวณว่าจะต้องเสียภาษีในอัตราเท่าไร ตัวอย่างเช่น การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีรายได้ต่อเดือน 50,000 บาท ได้รับโบนัส 300,000 บาท รายการ จำนวนเงิน เงินได้ตลอดทั้งปี 600,000 โบนัส 300,000 หักค่าใช้จ่ายตามมาตรา 40(1) 100,000 หักค่าลดหย่อนส่วนตัว 60,000 เงินได้สุทธิ 74,000 2. เริ่มศึกษาลดหย่อนภาษีอื่น ๆ เพื่อลดรายจ่าย ค่าลดหย่อนภาษีเป็นสิทธิประโยนช์ที่ทำให้เรานั้นเสียภาษีน้อยลง และเมื่อทำตามหลักเกณฑ์ที่ทางรัฐบาลนั้นได้กำหนดไว้ ที่ทางรัฐบาลนั้นจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับประชาชน ตัวอย่างเช่น ดอกเบี้ยเงินกู้ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ […]
ซื้อประกันอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงที่สุด

การซื้อประกันไม่ว่าจะเป็นผู้ที่เคยซื้อประกันแล้ว หรือมือใหม่หัดซื้อประกันนั้น เราทุกคนก็จะต้องได้รับประโยชน์สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ และมือใหม่หัดซื้อก็อาจจะเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวไม่น้อยเลยเช่นกัน เพราะไม่รู้จะต้องรู้อะไรบ้างก่อนจะเลือกซื้อ แต่อย่างไรก็ตามขั้นตอนการซื้อประกัน ไม่ยากเท่ากันดูเงื่อนไขของประกันที่มีรายละเอียดเยอะมาก เพราะจะมีเงื่อนไขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราอาจจะไม่สามารถใช้ประกันได้ และเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ทุกคนควรจะมีมากที่สุด ความสำคัญของประกันนั้นไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เราก็จะศึกษาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วน รวมไปถึงเรื่องการลดหย่อนภาษีอีกด้วย เรามาดูขั้นตอนการเลือกซื้อประกันสำหรับมือใหม่กัน 1. เลือกประกันให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเรา เป็นเรื่องที่ต้องรู้ก่อนอันดับแรก เนื่องจากประกันชีวิตมีหลากหลายประเภท แต่ว่าการจะตอบโจทย์นั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราจะต้องรู้ก่อนว่าความต้องการของเรานั้นเป็นอย่างไร ซื้อประกันไปเพื่ออะไร เช่น ออมเงิน เพื่อวัยเกษียณ หรือต้องการเป็นมรดกให้คนรุ่นหลัง เป็นต้น ดังนั้นการเลือกซื้อประกันให้เหมาะสมกับทั้งการเงิน ทั้งความต้องการของตนเองนั้น ก็จะทำให้เราไม่เกิดปัญหาขึ้นในอนาคตได้ เพราะประกันตัวที่เราได้เลือกนั้นเป็นสิ่งที่จะตอบโจทย์ในชีวิตของเราได้มากที่สุด 2. การเลือกซื้อประกันในแต่ละตัว เราจะจ่ายไหวที่เท่าไร อย่างต่อมาเราจะต้องดูว่าค่าเบี้ยประกันต่อปีเราจะจ่ายไหวที่เท่าไร เพราะถ้างบประมาณของเรานั้นไม่สอดคล้องกับแผนประกันนั้น เราก็จะต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนประกัน เพื่อทำให้ได้ความคุ้มครองที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด และสถานการณ์ทางการเงินของเรานั้นก็จะไม่ลำบากจนเกินไป หากเราไม่อยากจ่ายเงินให้สูญเปล่าก็อาจจะต้องเลือกประกันแบบสะสมทรัพย์ เป็นต้น แล้วเราจะแบ่งเงินซื้อประกันอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเรา การแบ่งเงินซื้อประกันนั้นไม่ควรเกินปีละ 10% ของรายได้ของเรา เพราะรายจ่ายหลัก ๆ ของเราจะมีดังนี้ 3. การเปรียบเทียบแบบประกันที่คุ้มค่ามากที่สุด เพราะการเปรียบเทียบแบบประกันหลาย ๆ […]
แจกไอเดียวิธีการรับมือกับค่ารักษาโรคร้ายแรง

วิธีการรับมือกับค่ารักษาโรคร้าย ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทุก ๆ คนจะต้องใส่ใจมาก ๆ ในการวางแผนทางการเงินให้เป็นอย่างดีเลย แล้วเราจะมีวิธีแบบไหนบ้างที่เราสามารถรับมือกับค่ารักษาโรคร้ายได้ มาลองดูกันค่ะ 1. การทำให้เงินเติบโตให้เร็วทันโรคร้ายผ่านการลงทุน ศึกษาวิธีการลงทุนเพื่อให้เงินเก็บที่มี เติบโตมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร การลงทุนในหุ้นหรือกองทุนรวม มีเป้าหมายเพื่อ ผลตอบแทนที่ได้มากกว่าเงินฝากธนาคาร เพราะดอกเบี้ยที่ต่ำเกินไปจน ไม่สามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อของค่ารักษาพยาบาลได้ ดังนั้นการเก็บออมพร้อมกับลงทุน ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการวางแผนความเสี่ยงเพื่อรับมือกับค่าใช้จ่ายโรคร้ายแรง โลกปัจจุบันนี้เปิดโอกาสให้ ทุกคนสามารถลงทุนได้ ผ่านหลากหลายสินทรัพย์ที่กำหนด ตัวอย่างเช่น หุ้น กองทุนรวม หรือ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น เพราะโรคร้ายแรงส่งผลต่อระบบการเงินในครอบครัวอย่างมาก แม้จะใช้สิทธิรักษาฟรีก็ตาม ก็ยังต้องมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกมากมายตามมา การวางแผนเพื่อรับมือกับความเสี่ยงนี้ ต้องอาศัยระยะเวลา ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ ควรเริ่มศึกษาข้อมูลและวางแผนรับมือตั้งแต่วันนี้ จะดีที่สุด ผลตอบแทนจากการลงทุนมักมาพร้อมกับความเสี่ยง การลงทุนไม่ใช่การฝากเงิน ที่ย่อมมีปัจจัยด้านความเสี่ยงที่ไม่สามารถควบคุมได้อยู่ด้วย แต่หากการลงทุนในระยะยาว ผลตอบแทนย่อมมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร 2. การกู้เงินจากธนาคารส่วนสินเชื่อค่ารักษา การกู้เงิน เรื่องง่าย ๆ แต่ควรทำเมื่อจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปัจจุบันมีสินเชื่อที่ให้วงเงินสำหรับค่ารักษาตั้งแต่ 20,000 – 2,000,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 60 เดือน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี โดยพิจารณาจากค่ารักษาจริง และ ฐานรายได้ที่มี ซึ่งปัญหาหลัก ๆ […]
ค่าใช้จ่ายจากโรคร้าย รับมืออย่างไรดีให้เงินเพียงพอ

เรื่องโรคร้ายนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ สำหรับทุก ๆ คนเลย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่จะมีโอกาสเกิดมากกว่าวัยอื่น ๆ นอกจากปัจจัยต่าง ๆ เช่นกรรมพันธุ์ พฤติกรรมในการใช้ชีวิต ลักษณะการทำงาน ความเครียด สภาพแวดล้อม เป็นต้น ดังนั้น ประกันโรคร้าย หรือประกันโรคมะเร็งจึงจำเป็นมาก ๆ ที่เราควรจะวางแผนทำไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ในวันที่เราสุขภาพแข็งแรงดี เพื่อเป็นการบริหารความเสี่ยง และยังไม่ให้กระทบต่อการเงินในอนาคตอีกเช่นกันหากเป็นโรคมะเร็ง ก่อนอื่นเรามาดู 5 โรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยไปจำนวนมาก รวมไปถึงค่ารักษาแต่ละโรคเท่าไรบ้าง เพื่อที่เราจะได้มองเห็นคร่าว ๆ ว่าเราจะต้องเดินไปในเส้นทางไหน และจะต้องเตรียมตัวอย่างไร 1. โรคมะเร็ง โรคมะเร็ง เป็นโรคที่เป็นอันดับหนึ่งที่คร่าชีวิตคนไทยมากที่สุดเลย ซึ่งพบว่าโรคมะเร็ง จะพบว่า ผู้ชาย จะเป็นมะเร็งตับและท่อน้ำดีมากที่สุด และตามมาด้วยมะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ส่วนผู้หญิง จะเป็นมะเร็งเต้านมมากที่สุด รองลงมาเป็น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งตับและท่อน้ำดี มะเร็งปอดและท้ายที่สุดเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ค่ารักษามะเร็งทุกกระบวนการรักษาจะอยู่ที่ 300,000 – 800,000 บาท […]
5 เคล็ดลับเริ่มต้นลงทุนจากวัยหนุ่มสาว

การสร้างนิสัยการออม การลงทุนเป็นผลดีในระยะยาว เป็นเรื่องที่เราควรเริ่มตั้งแต่ในวันที่เริ่มต้นทำงานหรือเมื่อได้รับเงินเดือนครั้งแรก เพราะนอกจากจะช่วยให้มีนิสัยออมเงินและลงทุนที่ดีแล้ว การเริ่มต้นที่เร็วกว่าจะช่วยเพิ่มพูนความร่ำรวยในอนาคตได้ ก่อนอื่นเลย จะต้องมาดูว่าก่อนที่จะลงทุนนั้น ต้องเตรียมอะไรบ้าง ก่อนจะลงทุน เราจะลองตรวจสอบดูว่า การเงินของเรานั้นพร้อมและสามารถลงทุนได้จริงหรือไม่ เพราะเงินที่จะนำมาลงทุนนั้นควรเป็นเงินเย็นหรือเงินที่ไม่ต้องใช้ทำอะไรในระยะเวลาอันใกล้ และอย่าลืมหักภาระค่าใช้จ่ายหรือหนี้ที่ต้องชำระและเงินสำรองฉุกเฉินออกก่อน จากนั้นก็เตรียมพิจารณาเรื่องลงทุน เมื่อเข้าใจเส้นทางของเงินในแต่ละเดือน เพราะเราจะต้องรู้ว่าเงินเข้าและเงินออกในแต่ละเดือนว่ามีเท่าไร มีเงินออมเท่าไร และในแต่ละเดือน เมื่อเงินเดือนออก รู้หรือไม่ว่าต้องโดนหักค่าอะไรไปบ้าง เช่น ประกันสังคม เงินสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือภาษีหัก ณ ที่จ่าย มีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง ซึ่งหากเรานั้นไม่เคยทำบัญชีรายรับรายจ่ายอาจตอบไม่ได้ อย่างแรกเลยจะต้องเริ่มจากจดบันทึกเพื่อดูพฤติกรรมตัวเองและสร้างวินัยด้านการใช้จ่าย หากมีเงินเหลือ แปลว่า ใช้จ่ายน้อยกว่าที่รายได้ได้ เมื่อเงินเหลือก็ต้องตั้งเป้าว่าสามารถนำมาเก็บออมหรือลงทุนในแต่ละเดือนได้เท่าไร ตัวอย่างเช่น มีเงินเหลือเดือนละ 2,000 บาท ตั้งใจแบ่งมาเก็บออมสม่ำเสมอเดือนละ 1,000 บาท ข้อแนะนำควรหักเงินอัตโนมัติจากบัญชีเงินเดือนเพื่อนำไปเก็บออมประจำหรือลงทุน แต่หากพบว่าในแต่ละเดือนไม่มีเงินเหลือก็อย่าเพิ่งคิดเรื่องลงทุน ควรตรวจสอบการเดินทางของเงินก่อนว่าทำไมเงินถึงไม่เหลือ และเมื่อรู้ปัญหาก็รีบแก้ไข เช่น ซื้อของฟุ่มเฟือย ชอปปิงออนไลน์ทุกสัปดาห์ ก็ต้องลด ละ เลิก การเตรียมเงินสำรองฉุกเฉิน อีกหนึ่งเรื่อสำคัญมาก ๆ ได้แก่ […]
Passive vs. Active ลงทุนแบบไหนดีกว่ากัน

ก่อนที่จะลงทุนประเภทกองทุนรวม เราจะต้องมาทำความเข้าใจในการลงทุนแบบไหนที่ดีกว่ากัน กองทุนที่เลือกลงทุน ผู้จัดการกองทุนมีแนวทางในการบริหารกองทุนอย่างไรบ้าง ระหว่างการลงทุนแบบ Passive และการลงทุนแบบ Active นั้นขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และสถานการณ์ของผู้ลงทุนเอง โดยมีคุณลักษณะที่แตกต่างกันดังนี้ Passive Investment (การลงทุนแบบผ่านผู้จัดการ) หรือ Index Fund การลงทุนแบบ Passive เป็นกองทุนรวมหุ้นที่มีวัตถุประสงค์ในการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ “ใกล้เคียงกับดัชนีให้มากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้” ซึ่งการลงทุนโดยไม่มีการเข้าสังคมหรือการตัดสินใจในการซื้อขายหรือการจัดการกิจกรรมลงทุนในระยะยาว ผู้ลงทุนใช้วิธีการซื้อกองทุนรวม (mutual funds) หรือติดตามดัชนีตลาด (market index) เช่น กองทุนรวมดัชนี ส่วนใหญ่จะแบ่งตามดัชนี หรือ Benchmark ที่กองทุนนั้นๆ ลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียง เช่น SET, SET100, SET50 และ SETHD เป็นต้น นักลงทุนสามารถสังเกตได้จากชื่อกองทุน โดยชื่อกองทุนจะบอกได้ว่ากองทุนนั้นใช้ดัชนีอ้างอิงเป็นดัชนีใด เช่น กองทุน Passive Fund ที่ใช้ดัชนี SET50 เป็นดัชนีอ้างอิง จะมีคำว่า SET50 อยู่ในชื่อกองทุนนั้นด้วย นอกจากนี้แนวทางการลงทุนจะถูกแจ้งอยู่ในหนังสือชี้ชวนด้วยเช่นกัน […]
ว่าด้วยเรื่องจิตวิทยาการลงทุน หากอยากลงทุนสำเร็จต้องมาลองดูกัน

ว่าด้วยเรื่องของ “จิตวิทยาการลงทุน” คือสภาพจิตใจและสภาวะอารมณ์ในการเทรดหุ้นของเรา ซึ่งจิตวิทยาการลงทุนถือว่ามีความสำคัญมากในการลงทุน และจิตวิทยาการลงทุนที่นักลงทุนในตลาดหุ้นมักทำพลาดมีอยู่ 5 อย่างด้วยกัน ได้แก่ ราคาสูงเลยไม่ซื้อหุ้น อย่างต่อมาเมื่อเราไม่ยอมทำตามแผนที่วางไว้ นอกจากนี้การลงทุนที่เชื่อคนอื่นมากเกินไปก็จะทำให้พังได้ อีกทั้งยังฝังใจกับหุ้นตัวเดิม ๆ ที่อาจจะเคยทำให้เราได้กำไร แต่ปัจจุบันนั้นขาดทุนไปแล้ว และอย่างสุดท้ายได้แก่ Overtrade “จิตวิทยาการลงทุน” คืออะไร? จิตวิทยาการลงทุน คือสภาพจิตใจและสภาวะอารมณ์ในการเทรดหุ้นของเรา ซึ่งจิตวิทยาการลงทุนถือว่ามีความสำคัญมากในการลงทุน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นตัวกำหนดว่าเราจะประสบความสำเร็จในการลงทุนหรือไม่ ซึ่งหากมองดูแล้วจิตวิทยาการลงทุนนี่มีความสำคัญพอ ๆ กับความรู้ในการลงทุนเลย แต่เพราะมันไม่ได้เห็นเป็นรูปธรรมอะไร คนส่วนใหญ่ก็เลยไม่ค่อยให้ความสำคัญกัน 5 “จิตวิทยาการลงทุน” ที่นักลงทุนมักทำพลาดในตลาดหุ้น เรามาดูจิตวิทยาในการลงทุน ที่นักลงทุนมักทำพลาดในตลาดหุ้นมาให้ทุกคนได้ลองอ่านกัน แล้วลองดูสิว่ามีใครเป็นแบบไหนบ้างไหม ไปดูกันเลย 1. เพราะราคาสูงเลยไม่ลงทุน ในส่วนของข้อแรก ความผิดพลาดที่เกิดบ่อยและนักลงทุนเป็นกันเยอะมากที่สุดข้อหนึ่งเลยก็ว่าได้ ความหมายของคำว่า “เพราะราคาสูงเลยไม่ลงทุน” ก็คือสมมติว่าเราดูกราฟ หุ้น ก แล้วเห็นว่าหุ้นตัวนี้น่าสนใจมาก ๆ และเป้าหมายของหุ้นตัวนี้น่าจะไปถึงราคา 15 บาท ซึ่งในตอนนี้ราคาหุ้นก็ยังอยู่แค่ 5 บาทอยู่เลย เราก็เลยเพิ่มหุ้นตัวนี้ไว้ในลิสต์เพื่อดู แต่พอตอนเราจะซื้อราคาหุ้น ราคาขึ้นมาอยู่ที่ 9 […]