การวางแผนทางการเงิน เพื่อทำให้เรามีอิสรภาพทางการเงิน โดยที่เราไม่ต้องมากังวลเรื่องเงินในวันที่ประสบปัญหา ซึ่งไม่มีวิธีการใด ๆ จะดีเท่าปรับให้เหมาะกับสถานการณ์ทางการเงินของตนเอง เพราะไม่ว่าจะลงทุน การออมเงินต่าง ๆ ก็จะต้องมีการใช้เวลาและการศึกษาหาข้อมูลเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินของเราอย่างสมบูรณ์แบบ
การวางแผนทางการเงินเพื่ออนาคต โดยส่วนใหญ่แล้วคนอยากให้เงินไปทำงานแล้วมีเงินใช้โดยที่เราไม่ต้องทำงานเอง สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนใฝ่หา แล้วเราจะทำแบบไหนได้จริง ๆ หรือ
ซึ่งการวางแผนทางการเงิน เพื่อให้มีอิสรภาพทางการเงินได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเช่นกัน เพราะจะต้องใช้ความอดทนอย่างมากกว่าที่จะได้อิสระทางการเงินนั้นมา ซึ่งครั้งนี้เราจะมาดู 2 วิธีการหลัก ๆ ก็คือ
1. การเตรียมเงินทั้งก้อนสำหรับที่เราจะต้องใช้ทั้งชีวิตรอไว้
เป็นการวางแผนเกษียณอายุอย่างหนึ่ง ซึ่งวิธีการง่าย ๆ เราจะต้องคำนวณว่าเรานั้นอยากจะเกษียณตัวเองเมื่อไร แล้วจะต้องมีเงินเท่าไรถึงจะเพียงพอต่อการใช้ชีวิตในช่วงเวลาที่เหลือ และเมื่อเราสามารถทำงานให้ได้จนได้ตามเป้าหมายของเราแล้วนั้นก็สามารถที่จะหยุดงานได้อย่างสบายใจ แต่วิธีการนี้จะเป็นวิธีการที่ค่อนข้างใช้เวลานานมาก เพราะจะต้องค่อย ๆ ออมเงินเพื่อเตรียมเกษียณอายุ
แต่ละช่วงวัยของเกษียณจะแบ่งออกเป็น 3 ช่วงง่าย ๆ ได้แก่
- ช่วงต้นวัยเกษียณ ช่วงอายุ 60 – 65 ปี เป็นช่วงเวลาที่ค่าใช้จ่ายโดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการท่องเที่ยว การดูแลพ่อแม่ หรือลูก ซึ่งยังเป็นช่วงวัยที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงมากอยู่
- ช่วงกลางวัยเกษียณ ช่วงอายุ 66 – 70 ปี เป็นช่วงเวลาที่ค่าใช้จ่ายเริ่มน้อยลง แต่ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นจะเป็นเรื่องการดูแลสุขภาพ
- ช่วงปลายวัยเกษียณ ช่วงอายุ 71 ปีขึ้นไป เป็นช่วงที่มักจะพบเจอปัญหาสุขภาพ และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นที่สุดจะเป็นเรื่องสุขภาพ
ประเภทของการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ
- ออมกองทุน – ออมหุ้น
- การออมหุ้น
เป็นการลงทุนแบบทยอยลงทุนอย่างต่อเนื่องในจำนวนเงินที่เท่า ๆ กัน เพื่อทำให้ได้ผลตอบแทนที่ดี เพื่อให้ตรงความต้องการของผู้ลงทุนมากขึ้น ซึ่งการลงทุนประเภทนี้ก็จะน่าสนใจในการลงทุนมากกว่าการฝากเงินทั่วไปอย่างมาก แต่การลงทุนก็จะมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น
ประโยชน์ของการออมหุ้น
- ฝึกวินัยการลงทุนของตนเอง เพราะจะเป็นการทยอยซื้อกองทุนหรือหุ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้มีการวางแผนรายได้ของเราในแต่ละเดือนเพื่อแบ่งเงินมาลงทุน
- มีโอกาสเก็บเงินก้อนในระยะยาว เป็นการนำเงินไปลงทุนในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งเงินที่ลงทุนไปจะเป็นก้อนใหญ่ในอนาคต นอกจากมีเงินก้อนแล้วยังมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็นเงินปันผลหรือส่วนต่างของราคาอีกด้วย
- การออมกองทุนรวมหุ้น
เป็นการลงทุนรวมหุ้น จะมีมืออาชีพหรือผู้เชียวชาญในด้านการลงทุนมาช่วยเลือกหุ้นเพื่อลงทุนให้ ทำให้เราไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการเลือกหรือการติดตามตลาดในแต่ละวันด้วยตัวเอง รวมไปถึงการลงทุนก็ลงทุนน้อยกว่า และสามารถกระจายการลงทุนเพื่อช่วยกระจายความเสี่ยงอีกด้วย
2. ประกันชีวิตบำนาญ
ประกันชีวิตที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ได้แก่ ประกันชีวิตในวัยเกษียณ เพราะเนื่องจากเป็นการวางแผนทางการเงินเพื่อใช้ชีวิตหลัง 60 ปี
ข้อดี เป็นการออมเงินในระยะยาวซึ่งผู้ที่ออมเงินจะต้องมีวินัยในการออมเงินมาก ซึ่งประกันก็จะได้รับความคุ้มครองชีวิตและมีการจ่ายเงินตามสิทธิประโยชน์เมื่อเกษียณ หากชำระค่าเบี้ยประกันครบกำหนด
ตัวอย่างเช่น เราเริ่มวางแผนทางการเงินตั้งแต่อายุ 25 ปี ต้องการเกษียณอายุตอน 55 ปี คาดการณ์ว่าจะมีอายุถึง 80 ปี ซึ่งช่วงเวลาที่ไม่ได้ทำงานเป็นเวลา 25 ปี และต้องการมีเงินใช้เดือนละ 30,000 บาท ดังนั้นเราจะต้องมีเงินในช่วงเวลาเกษียณ เป็นจำนวน 7,500,000 บาท ถ้าเราดูจำนวนเงินนั้นก็เป็นจำนวนเงินที่สูงมาก ๆ แต่หากเริ่มเก็บเงินตั้งแต่เมื่อเริ่มทำงานก็จะเก็บในจำนวนที่น้อยลงต่อเดือนอย่างมาก
3. การเตรียมตัวให้มี Passive Income มากกว่ารายจ่ายในแต่ละเดือน
วิธีการนี้จะใช้เวลาสั้นลงมาหน่อย ซึ่งเป้าหมายหลัก ๆ ของการทำงานอย่างเดียวที่เป็น Active Income ก็คือมนุษย์เงินเดือน แต่ถ้าเราไม่ได้ไปทำงานตามเวลาที่กำหนด ก็จะไม่ได้รับเงินเดือนทำให้เราไม่มีรายได้อีกเช่นกัน
เมื่อคนส่วนใหญ่กว่า 95% ที่เป็นมนุษย์เงินเดือน ก็สามารถเลือกเอาเงินไปลงทุนให้เกิด Passive Income เพื่อทำให้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนในแต่ละเดือนที่มากกว่ารายจ่าย ถ้าทำแบบนี้ก็มีอิสระภาพทางการเงินแล้ว
ตัวอย่างเช่น เมื่อเรามีเงินเก็บ ก็อาจจะต้องนำเงินไปดาว์นคอนโดสักห้องหนึ่ง แล้วนำห้องนั้นไปปล่อยเช่า ถ้าเราปล่อยเช่าได้ 10,000 บาท แต่เราจะต้องผ่อนกับทางธนาคาร 7,000 บาท ก็หมายถึงว่าเราจะมีเงินส่วนต่างเดือนละ 3,000 บาท ก็จะเรียกว่า Passive Income
การวางแผนทางการเงินควรจะเริ่มต้นวางแผนตั้งแต่เนิ่น ๆ และยิ่งวางแผนเร็วมากเท่าไรก็ยิ่งทำให้เราทำให้เป้าหมายการเงินสำเร็จมากเท่านั้น ถ้าเราไปออมเงินตอนใกล้ ๆ วัยเกษียณก็จะทำให้เราวางแผนยากมากขึ้นและเหนื่อยมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นลองดูตามความเหมาะสมทางการเงินของตนเอง
credit : slothub888