แนวโน้มเงินบาทไทย จะเป็นอย่างไร มาดูกันเลย

ความรู้เบื้องต้นการเงิน

เงินบาทไทยในปัจจุบันจะอยู่ประมาณ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแข็งค่ามากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงปลายปี 2565 ที่เงินบาทไทยอยู่ที่ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดง่าย ๆ ตั้งแต่ปี 2566 เงินบาทก็มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นถึง 5% ซึ่งเป็นค่าเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในเอเชีย แล้วในปี 2566 ค่าเงินบาทไทยมีแนวโน้มเป็นอย่างไร และมีสาเหตุมาจากอะไร เราต้องมาดูบทความนี้เลย 

เมื่อเริ่มต้นปี 2566 ค่าเงินบาทของไทยก็เริ่มแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้าเทียบกับเมื่อปี 2565 ค่าเงินไทยอยู่ที่ประมา​ณ 35 – 38 บาทต่อต่อดอลลาร์สหรัฐ ก็ถือว่าใช้เวลาไม่กี่เดือนที่จะทำให้ค่าเงินนั้นแข็งขึ้นมาอย่างรวมเร็ว เมื่อค่าเงินนั้นแข็งค่ามากกว่า 5% จนกลายเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งนำหน้าค่าเงินรูเปียของประเทศอินโดนีเซีย ค่าเงินริงกิตของประเทศมาเลเซีย รวมไปถึงค่าเงินวอนของประเทศเกาหลีใต้ ที่เคยเป็นสกุลเงินแข็งค่ามากที่สุดในเอเชียมาก่อนหน้านี้

เรามาดูการเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินในภูมิภาคเอเชีย

สกุลเงินเปลี่ยนแปลง
บาท (ประเทศไทย)+5.3%
รูเปีย (ประเทศอินโดนีเซีย)+4.3%
ริงกิต (ประเทศมาเลเซีย)+3.2%
หยวน (ประเทศจีน)+2.4%
วอน (ประเทศเกาหลีใต้)+2.3%
ดอลลาร์ไต้หวัน (ไต้หวัน)+2.0%
ดอลลาร์สิงค์โปร์ (ประเทศสิงค์โปร์)+1.9%
รูปี (ประเทศอินเดีย)+1.2%
เยน (ประเทศญี่ปุ่น)+0.7%
ดอลลาร์ฮ่องกง (ฮ่องกง)-0.4%

เรามาดูสาเหตุกันว่ามีสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าได้อย่างรวดเร็ว

1. ดอลลาร์อ่อนค่าจากการลดการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

1. ดอลลาร์อ่อนค่าจากการลดการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ

เพราะสาเหตุแรกคงหนีไม่พ้นเรื่องการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ เมื่อเราได้ย้อนกลับไปในปี 2565 ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (หรือ US Dollar Index) ที่เป็นดัชนีชี้วัดเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับสกุลเงินต่าง ๆ ซึ่งจะพบว่า การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐนั้นได้มุ่งไปทิศทางแข็งค่าตลอดทั้งปี และก็มีช่วงของปลายปี 2565 ค่าดัชนีฯ ของดอลลาร์สหรัฐได้พุ่งสูงเกิน 110 จุด ซึ่งเป็นจุดสูงสุดในรอบ 20 ปี และส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐเฉลี่ยทั้งปี 2565 แข็งค่ากว่า 8%

เรื่องที่สำคัญเกิดจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่เร็วและแรงที่สุดของทางธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะประกอบกับความเสี่ยงทั่วโลกที่ปะทุขึ้นตลอดเวลา ดังนั้นทำให้เกิดแรงดึงดูดหรือความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเงินดอลลาร์สหรัฐมีเพิ่มขึ้น กดดันให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การกดดันการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันนั้นลดลงไป จากเงินเฟ้อของสหรัฐฯ และลดลงจากจุดสูงสุดในช่วงกลางปี 2565 มาอยู่ที่จุดต่ำสุดในช่วงปลายปี 2565 ดังนั้นก็จะทำให้ราคาของพลังงานและราคาน้ำมันของตลาดโลกนั้นลดลงเช่นกัน

2. เศรษฐกิจโลกไม่ได้น่ากลัวและการเปิดประเทศของจีน หนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ได้ออกมาคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2566 ว่าจะมีแนวโน้มเติบโต 2.9% แม้จะลดลงจากปี 2565 ที่คาดการณ์ว่าจะโตขึ้น 3.4% เพราะปัจจัยสำคัญเพราะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันนั้นไม่ได้มีเหตุการณ์ที่กระทบทั่วโลก รวมไปถึงประกอบกับสัญญาณการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อจะเป็นการช่วยลดโอกาสการเกิดสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก ตลอดจนการเปิดประเทศและการท่องเที่ยวดีขึ้นในรอบ 3 ปีทำให้เศรษฐกิจโลกดีขึ้น

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมา เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลก รวมไปถึงเริ่มลงทุนเพิ่ม ซึ่งเป็นการกระจายเม็ดเงินไปหลายพื้นที่ทั่วโลกมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่และประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย รวมถึงไทยด้วยเช่นกัน

3. เศรษฐกิจไทยโตสวนกระแสโลก เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ

3. เศรษฐกิจไทยโตสวนกระแสโลก เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติ

เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินสกุลนั้น ได้แก่ แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ หากเรามาดูเศรษฐกิจไทยก็ถือว่าดีขึ้นตามลำดับแต่ได้เริ่มเปิดประเทศช่วงกลางปี 2565 นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเริ่มเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย ก็จะทำให้ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจร้านอาหาร โรงแรม รวมไปถึงธุรกิจอื่น ๆ นั้นกลับมามีการรายได้อีกครั้ง

แนวโน้มของเงินบาทไทย นั้นสรุปง่าย ๆ เลยก็คือ เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า จีนเปิดประเทศ และเศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดี ดังนั้นเรื่องการแข็งค่าหรือการอ่อนค่าของค่าเงินมีปัจจัยเข้ามากระทบมหาศาลทั้งสิ่งที่เรารู้และพอคาดเดาได้ และสิ่งที่ไม่สามารถรู้ได้หรือประเมินเหตุการณ์ล่วงหน้าได้เลย และเราก็จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้ด้วยเช่นกัน

แล้วแบบนี้ค่าเงินไทยแข็งค่าดีหรือไม่ 

ค่าเงินไทยแข็งค่าก็จะดีต่อกลุ่มผู้ประกอบการเกี่ยวกับนำเข้าสินค้า เพราะทั้งสินค้าและวัตถุดิบนั้นมีราคาที่ถูกลง ดังนั้นเวลาเราซื้อสินค้าจากต่างประเทศ หรือคนที่กำลังจะไปต่างประเทศ ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีมาก ๆ จ่ายน้อยลง แต่ได้ค่าดอลลาร์หรือแลกเงินได้จำนวนมากขึ้น หากสรุปง่าย ๆ ช่วงเวลานี้ก็เป็นช่วงเวลาที่ดีมาก ๆ เลยเช่นกัน

มาถึงตรงนี้แล้ว แนวโน้มเงินบาทไทยที่เป็นไปในทางที่ดี ทำให้เศรษฐกิจในประเทศไทยนั้นดีขึ้นมาก ๆ กว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา พร้อมกับทำให้ทุก ๆ ธุรกิจนั้นได้มีงานทำ แรงงานมีรายได้ คนไทยได้ประโยชน์กับค่าเงินที่แข็งมากขึ้น ในหลาย ๆ ธุรกิจ รวมไปถึงการออกไปเที่ยวต่างประเทศด้วยเช่นกัน ที่จะทำให้เงินใช้จ่ายที่ต่างประเทศนั้นมีมากขึ้น

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG