อสังหาริมทรัพย์แบบไหนเหมาะกับตัวเรามากที่สุด

ความรู้เบื้องต้นการเงิน

อสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าเราจะเลือกแบบไหน อยู่ในทำเลไหน เราจะมาดูข้อดีข้อเสีย และเราจะได้เช็กว่าแบบไหนเหมาะกับตัวเรามากที่สุด ทั้งไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต การทำงาน เพื่อทำให้การเงินของเรานั้นไม่บานปลาย เพราะการซื้อบ้านหรือคอนโดที่ไกลจากตัวเมืองหรือที่ทำงานมาก ก็จะทำให้เราต้องจ่ายค่าเดินทางในแต่ละวันมากพอสมควร ดังนั้นเราจะต้องคำนวณทั้งรายได้และราคาอสังหาริมทรัพย์อย่างดีก่อนที่จะตัดสินใจการเลือกที่อยู่อาศัยระหว่างบ้านและคอนโดขึ้นอยู่กับความต้องการและรูปแบบการใช้ชีวิตของคุณ นี่คือบางปัจจัยที่ควรพิจารณาเมื่อตัดสินใจ

1. ขนาดและพื้นที่

ขนาดพื้นที่เป็นสิ่งที่สำคัญแรก ๆ ในการเลือกซื้อบ้านหรือคอนโด เพราะขนาดพื้นที่ที่เล็กมาก ๆ ถ้าอยู่หลาย ๆ คนก็จะทำให้เรารู้สึกอึดอัดได้ และพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ ก็จะลดน้อยลงมาก ซึ่งก็จะเหมาะกับการอยู่คนเดียว 

ส่วนของบ้าน ขนาดพื้นที่ที่มีบริเวณกว้าง ๆ มีสนามหญ้า มีสวนสาธารณะใกล้ ๆ หรือในหมู่บ้านมีส่วนกลางก็จะทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่งมากขึ้น และจะตอบโจทย์กับผู้ที่อาศัยเป็นครอบครัวมากกว่า

2. การบำรุงรักษา

2. การบำรุงรักษา

บ้านมีความส่วนตัวมากกว่าคอนโด แต่ก็ต้องรับผิดชอบในการดูแลรักษาบ้านและสวน ในขณะที่คอนโดมีการบำรุงรักษาที่ดูแลอย่างเคร่งครัดโดยคอนโดมิเนียม

บ้านและคอนโด เมื่อมีการอยู่อาศัยก็จะต้องมีการบำรุงรักษาเป็นเรื่องปกติมาก ๆ แต่ทั้ง 2 แบบก็จะมีการดูแลรักษาที่แตกต่างกันไป เช่น บ้าน ที่มีพื้นที่กว้างกว่า จะต้องดูแลทั้งภายในและภายนอกของตัวอาคาร แต่ส่วนของคอนโดจะเป็นเรื่องการดูแลรักษาภายในห้องของตัวเอง และจะมีช่างของทางคอนโดเข้ามาช่วยดูแลให้ และในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางของทางคอนโดนั้นก็จะเป็นเรื่องของค่าส่วนกลางที่ทางคอนโดนั้นเรียกเก็บตามขนาดพื้นที่ ซึ่งก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รองรับ เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส พื้นที่สวน เป็นต้น ดังนั้นเราจะต้องดูค่าใช้จ่ายและคำนวณให้ดี เพราะบางทีค่าบำรุงของทางคอนโดที่เรียกเก็บก็อาจจะมากกว่าการบำรุงรักษาบ้านก็เป็นได้

3. การควบคุมและความเป็นส่วนตัว

คอนโดมีระบบรักษาความปลอดภัยและการเข้าถึงที่จำกัดมากกว่า รวมทั้งการให้บริการจัดการและดูแลส่วนร่วม เช่น ลิฟท์หรือผู้ดูแลคอนโด แต่บ้านมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าและคุณสามารถควบคุมการเข้าถึงได้ตามต้องการ

4. ตำแหน่งที่ตั้ง

4. ตำแหน่งที่ตั้ง

บ้านมักตั้งอยู่ในที่ที่มีความเป็นส่วนตัวและห่างจากความวุ่นวายของเมือง ในขณะที่คอนโดมักตั้งอยู่ในที่ตั้งที่สะดวกสบายในการเข้าถึงสถานที่ต่างๆ เช่น โรงพยาบาล ศูนย์การค้า หรือสถานีขนส่ง

การเลือกทำเลไม่ว่าจะ คอนโด ก็จะต้องเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองมากที่สุด จะต้องเลือกให้เดินทางสะดวก ใกล้สถานที่ทำงานและอาจจะเหมาะกับคนกรุงเทพมากกว่าต่างจังหวัด เพราะส่วนใหญ่คอนโดจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า 

ส่วนกับบ้าน ทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านทาว์โฮม ก็อาจจะเลือกออกไปไกลจากเมืองกว่า หรืออาจจะเหมาะกับผู้ที่ไม่ได้อาศัยในกรุงเทพ ด้วยราคาและการเดินทางที่อาจจะสะดวกมากกว่าคนกรุงเทพ แต่หากชาวกรุงเทพซื้อบ้านเดี่ยวหรือบ้านทาว์โฮมก็จะเดินทางยากกว่าการซื้อคอนโด และอาจจะต้องซื้อรถยนต์เพื่อใช้ในการเดินทาง อีกหนึ่งสาเหตุที่ชาวกรุงเทพประสบทุกวันแน่นอนได้แก่ รถติด ซึ่งจะทำให้เราเสียเวลาในแต่ละวันไปเปล่าประโยชน์ ดังนั้นในแต่ละคนจะต้องชั่งน้ำหนักก่อนจะซื้อให้ดี

5. ราคาและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 

บ้านมักมีราคาและค่าใช้จ่ายในการดูแลที่สูงกว่าคอนโด นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาค่าภาษีอสังหาริมทรัพย์ และค่าส่วนกลางของสมาชิกหรือชุมชน

งบประมาณ เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่เราจะต้องตัดสินใจ เพราะการกำหนดงบประมาณที่ชัดเจน จะทำให้เราเลือกซื้อบ้านได้พอดีกับสถานการณ์ทางการเงินของเรา และอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ต้องมีงบประมาณก็คือ การซื้อบ้านหรือคอนโด จะมีค่าใช้จ่ายแฝง ดังนี้ 

  • ค่าจองหรือค่ามัดจำ ที่แน่นอนว่าจะมีราคาหลักหมื่นขึ้นไป
  • ค่าดาวน์บ้าน คอนโด จะเป็นเงินส่วนที่ต้องเตรียมไว้ก่อนซื้อบ้าน อย่างน้อย 5% – 10% ของราคาบ้าน 
  • ค่าประเมินราคาในการขอสินเชื่อบ้าน เมื่อเราต้องการขอสินเชื่อบ้าน จะต้องให้ธนาคารมาประเมินราคาบ้าน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ​ 1,000 – 3,000 บาท
  • ค่าจดจำนอง จะเป็นค่าธรรมเนียม ซึ่งจะคิดเป็น 1% ของวงเงินจำนอง
  • ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งจะจ่ายให้กับกรมที่ดิน จะคิดค่าจดทะเบียนสิทธิ 2% จากราคาประเมิน
  • ค่ามิเตอร์น้ำ – ไฟฟ้า จะเป็นค่าประกันมิเตอร์การใช้น้ำและไฟฟ้า 

6. ข้อจำกัดอื่น ๆ ที่เราพึงคำนึง

ข้อจำกัดต่าง ๆ การอาศัยอยู่คอนโดก็จะมีข้อจำกัดมากกว่าการอาศัยอยู่บ้านแน่นอน ทั้งเรื่องของความเป็นส่วนตัว การเข้าออกตึก เป็นต้น เพราะการอยู่คอนโด การที่เราทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการทำอาหาร การหากิจกรรมผ่อนคลาย ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เป็นต้น ก็จะทำให้เราจะมีความเกรงใจห้องข้าง ๆ เพราะเสียงอาจจะรบกวน กลิ่นที่ทำอาหารอาจจะสร้างปัญหาได้เช่นกัน หรืออีกเรื่องหนึ่ง ผู้ที่ชอบเลี้ยงสัตว์ ก็จะเป็นปัญหา คอนโดบางแห่งก็จะไม่อนุญาตให้เลี้ยวสัตว์ แต่การอยู่คอนโด ก็ไม่ได้จะพบเจอเรื่องเช่นนี้เสมอไป หากเราได้เจอเพื่อนร่วมชั้นที่ดี ก็จะทำให้เรามีความสุขที่จะอยู่อาศัยสำหรับผู้ที่รับได้กับสิ่งเหล่านี้

คำแนะนำสำหรับคุณคือควรพิจารณาความต้องการและสไตล์การใช้ชีวิตของคุณเป็นสำคัญ คุณควรทำการศึกษาและสำรวจตลาดที่ต้องการอยู่อาศัย เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ที่ดีที่สุด

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG