บ้าน เป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนที่อยากจะได้เป็นของตนเอง ทั้งบ้านที่ถูกใจ การออกแบบในฝัน และทำเลบ้านที่สะดวกสบายในการเดินทาง แต่หากได้ทำเลที่อยู่ใจกลางเมืองก็มีราคาที่สูงอย่างมาก ดังนั้นการขอสินเชื่อบ้านนั้นก็จะเป็นเรื่องหนึ่งของคนที่กำลังจะเตรียมตัวจะซื้อบ้าน ซึ่งการขอสินเชื่อเป็นการกู้ยืมเงินก้อนใหญ่จากทางสถาบันการเงิน ซึ่งแล้วการขอสินเชื่อบ้านจะต้องเลือกสินเชื่อบ้านอย่างไรบ้าง และจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
เรามาดูทั้ง 5 ข้อสำคัญที่จะต้องรู้ก่อนสินเชื่อบ้านมีอะไรบ้าง
1. เข้าใจสินเชื่อบ้านเบื้องต้น

สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์ซื้อบ้าน จะต้องศึกษาหาข้อมูลเพื่อขอสินเชื่อบ้าน หากไม่มีความรู้พื้นฐานทางด้านการเงิน อาจจะมองว่าเป็นเรื่องสับซ้อนอย่างมาก
สินเชื่อบ้านก็จะมีวัตถุประสงค์แตกต่างออกไป ได้แก่
- ขอสินเชื่อเพื่อนำไปซื้อที่อยู่อาศัย เช่น บ้านเดี่ยว คอนโด ทาวน์โฮม ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์
- ขอสินเชื่อเพื่อนำไปซื้อที่ดิน
- ขอสินเชื่อเพื่อนำไปปลูกสร้าง ซ่อมแซม ต่อเติมหรือตกแต่งบ้าน
- ขอสินเชื่อเพื่อนำไปซื้อบ้านมือสอง
สินเชื่อบ้านเพื่อที่อาศัย เป็นสินเชื่อเงินกู้ที่ทางสถาบันการเงินปล่อยเงินกู้เกี่ยวกับการซื้อบ้าน คอนโด หรือสร้างที่อยู่อาศัย โดยทางธนาคารจะประเมินวงเงินกู้ให้กับผู้กู้ ถ้าเป็นการกู้เพื่อซื้อบ้านหรือคอนโดก็จะเป็นการประเมินราคาของราคาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อคำนวณวงเงินกู้ให้ผู้กู้ ดังนั้นผู้กู้ก็จะต้องชำระเงินคืน ก็จะต้องมี “เงินต้น” “ดอกเบี้ย” และจะให้ชำระอยู่ในกรอบเวลาตามตกลง ซึ่งอาจจะมีระยะเวลายาวนานตั้งแต่ 10 – 30 ปี
2. รู้เรื่องการเงินของตนเอง

การขอสินเชื่อบ้านนั้นจะมีผลต่อสถานะทางการเงินของเราอย่างมาก ซึ่งทั้งรายได้ ภาระหนี้สิน สามารถใช้ประเมินได้ว่าเราจะได้วงเงินสินเชื่ออยู่เท่าไร จะต้องผ่อนชำระต่อเดือนมากน้อยเท่าไร ซึ่งเงินที่จะต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือนนั้นไม่ควรจะเกิน 30% – 40% ของรายได้ ดังนั้นจะขึ้นอยู่ของทั้งอาชีพและความมั่นคงของรายได้
นอกจากรู้สถานการณ์ทางการเงินของตนเองแล้วนั้น จะต้องประเมินรายได้และตรวจสอบค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน รวมไปถึงหนี้สินอื่น ๆ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่ออื่น ๆ ที่กำลังผ่อนชำระ เป็นต้น ซึ่งเราสามารถยื่นตรวจสอบข้อมูลทางศูนย์ข้อมูลเครดิตยูโร เพื่อแสดงหนี้สินปัจจุบัน ประวัติการชำระเงินคืน ทำให้เราเห็นภาพรวมของเครดิตทางการเงินของเรามากขึ้น แต่นอกจากจะขอสินเชื่อบ้านแล้ว เราจะต้องออมเงินด้วยเช่นกัน เพราะการซื้อบ้านนั้นก็จะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น ค่าตกแต่งบ้าน ค่าประกันบ้าน ค่าส่วนกลาง เป็นต้น
3. ดอกเบี้ยเงินกู้
ดอกเบี้ยนั้นเป็นเรื่องที่ผู้กู้เงินจำเป็นต้องรู้ ซึ่งสำหรับสินเชื่อบ้านถือว่าเป็นสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ และให้ระยะเวลาผ่อนชำระนานมาก ซึ่งวิธีการคิดคำนวณดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน ก็จะใช้วิธีแบบเงินต้นลดและดอกเบี้ยก็ลดตาม ซึ่งจะเป็นการคิดดอกเบี้ยตามจำนวนเงินต้นที่เหลืออยู่
วิธีการคิดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารอยู่ 2 วิธี
- อัตราดอกเบี้ยคงที่ เป็นการกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่มีการกำหนดตัวเลขที่แน่นอน ซึ่งมักจะเป็นในช่วงเวลา 1 – 3 ปีแรกของการผ่อน ทำให้เราสามารถวางแผนทางการเงินได้ล่วงหน้า และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้เช่นกัน
- อัตราดอกเบี้ยลอยตัว จะเป็นอัตราดอกเบี้ยที่มีการเปลี่ยนแปลงตามข้อกำหนดของธนาคาร ปรับขึ้นลงตามสถานการณ์ตลาดการเงิน ซึ่งจะไม่สามารถกำหนดได้ จะใช้อัตราดอกเบี้ย MRR และ MLR เป็นหลัก
4. หาข้อมูลสินเชื่อบ้านของแต่ละธนาคาร
สินเชื่อบ้าน หลาย ๆ ทางธนาคารก็จะมีสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพื่อให้ตอบโจทย์ในเรื่องบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อเพื่อซื้อสร้างที่อยู่อาศัย สินเชื่อเพื่อต่อเติม ซ่อมแซมบ้าน หรือสินเชื่อเพื่อตกแต่งบ้าน เป็นต้น
ดังนั้นสินเชื่อบ้านก็จะต้องเลือกให้เหมาะสมกับตนเอง ทั้งแผนการชำระเงินกู้ เพราะแต่ละสินเชื่อก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ได้แก่ เงื่อนไข โปรโมชั่น อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาในการผ่อนชำระ และการลดหย่อนค่าธรรมเนียมบางประมาณ เป็นต้น
เอกสารที่จะต้องยื่นขอสินเชื่อบ้าน
- เอกสารยืนยันตัวตน ได้แก่ บัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล สำเนาทะเบียนสมรส เป็นต้น
- เอกสารทางการเงิน ได้แก่ ใบรับรองเงินเดือน สลิปเงินเดือน เป็นต้น
- เอกสารหลักประกัน สัญญาวางมัดจำ สำเนาโฉนดที่ดิน เป็นต้น
5. การบริหารหนี้สินและการผ่อนชำระ
การบริหารหนี้สินและการชำระหนี้สินให้ตรงตามกำหนด ก็ถือเป็นวินัยที่สำคัญอย่างมาก และก็จะทำให้ประวัติทางการเงินไม่มีปัญหา ซึ่งจะทำให้ส่งผลต่อการขอสินเชื่อบ้าน เพราะหากเราไม่มีประวัติทางการเงินที่เสีย ก็จะทำให้เรามีโอกาสอนุมัติเงินกู้ที่สูงมากขึ้น นอกจากนี้การผ่อนชำระหนี้ให้ตรงเวลาก็จะส่งผลดีต่อทั้งผู้กู้ เพราะจะทำให้เราสามารถปลดหนี้ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
เนื่องจากบ้านนั้นก็จะมีรายจ่ายอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเตอร์เน็ต ดังนั้นจะต้องทำรายรับรายจ่ายตลอด เพื่อทำให้เราบริหารหนี้สินได้ดีมากขึ้นเช่นกัน
สินเชื่อบ้านเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยุ่งยาก แต่เราจะต้องทำความเข้าใจจากเรื่องพื้นฐานเบื้องต้น ได้แก่ เตรียมตัวทางการเงินอย่างไร ประเภทของสินเชื่อนั้นเป็นอย่างไร เข้าใจเรื่องดอกเบี้ยของสินเชื่อ และรวมไปถึงวิธีผ่อนชำระหนี้สิน เป็นต้น ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ผู้กู้จะต้องทำความเข้าใจ แต่ถ้าหากไม่เข้าใจก็สามารถสอบถามกับทางธนาคารที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรงได้เช่นกัน