มีหนี้ก้อนโต จะต้องเริ่มจากตรงไหนก่อนดี

มีหนี้ก้อนโต

เมื่อมีหนี้สินก้อนโต อยากจะเคลียร์หนี้ให้เร็วมากที่สุด จะต้องทำอย่างไรดี เพราะก็กลัวว่าจะเกิดปัญหาเรื้อรังที่จะกระทบกับการเงินของตัวเราเอง ซึ่งเรื่องหนี้สินนี้เป็นเรื่องที่สามารถแก้ไขได้ เริ่มจากการจัดลำดับว่าแบบไหนคือหนี้ที่ก่อประโยชน์หรือหนี้ที่ทำให้เสียประโยชน์ และหนี้ก้อนไหนที่ควรจะแก้ไขให้เร็วมากที่สุดก่อน ดอกเบี้ยแพงที่สุด ก็จะต้องจัดลำดับให้ดีเสียก่อน เพื่อประโยชน์ของตนเองทั้งหมด

การเคลียร์หนี้สิน เป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนกำลังปวดหัว อยากจะปลดหนี้ทำยังไงดี เพราะถ้าเราเอาเงินเก็บทั้งหมดไปปลดหนี้เลยก็ไม่สามารถทำได้ เพราะไม่อย่างนั้นเงินสำรองของเราก็จะไม่มีสำรองไว้สำหรับเหตุการณ์ไม่คาดคิด ดังนั้นวันนี้เรามาเริ่มดูขั้นตอนการแก้ปัญหาหนี้สิน ที่สามารถนำไปปรับใช้กับทุกคนได้

1. ตั้งสติ

อย่างแรกเลยเราจะต้องให้เวลากับตนเอง เพราะเป็นเรื่องที่เราจะต้องใช้ความคิดอย่างมาก และทุก ๆ ปัญหาล้วนมีทางออกเสมอ เพราะการเป็นหนี้เป็นเรื่องที่ผิดพลาดในบางช่วงเวลาเท่านั้น ซึ่งเป็นเพียงบางช่วงเวลาเท่านั้นเอง ดังนั้นก็ไม่สามารถตัดสินได้ว่าเราไม่มีการวางแผนทางการเงิน เพราะทุกปัญหานั้นย่อมมีทางออกเสมอ

2. นำหนี้ทั้งหมดมาจัดลำดับความสำคัญ

2. นำหนี้ทั้งหมดมาจัดลำดับความสำคัญ

หนี้ดี เป็นการสร้างหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้มากว่ารายจ่าย ตัวอย่างเช่น กู้ธนาคารเพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แล้วนำมาจ่ายดอกเบี้ยในแต่ละเดือน หรืออาจจะเป็นการกู้เงินเพื่อซื้อรถเพื่อนำมาประกอบอาชีพ เพื่อสร้างอาชีพ เพราะอาชีพนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องใช้รถ ซึ่งแน่นอนว่าอย่าลืมคิดค่าเสื่อมลงทุกวันเช่นกัน ซึ่งแบบนี้ก็จะเรียกว่า หนี้ดี

หากถ้าลองคิดเป็นจำนวน เรากู้เงินมา 100,000 บาท มีอัตราดอกเบี้ย 5% ก็จะเป็น 5,000 บาทต่อปี แล้วถ้าเรานำเงิน 100,000 บาทไปต่อยอดธุรกิจ ลงทุนอสังหาริมทรัพย์หรือเพื่อหารายได้เพิ่มเติมก็จะได้ผลกำไรที่มากกว่า 5,000 บาทต่อปี เป็นต้น

แล้วหนี้เลวคืออะไร

หนี้เลว เป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดรายจ่ายมากกว่ารายได้ ซึ่งไม่มีประโยชน์ต่อแผนทางการเงินของตนเองเลย ตัวอย่างเช่น การกู้ยืมเงินมาเพื่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เพื่อความสบายส่วนตัวเป็นหลัก การกู้ซื้อรถโดยไม่มีความจำเป็นหรือไม่ได้นำเอาไปหารายได้เพิ่ม ซึ่งแบบนี้ก็จะเรียกว่า หนี้เลว

จำนวนหนี้ก็จะคิดเป็นสัดส่วนได้ ดังนี้ เงินผ่อนคืนหนี้ก็ไม่ควรเกิน 20% ของรายได้ต่อเดือน แต่ถ้ามีหนี้บ้านหรือที่อยู่อาศัยและไม่ได้ปล่อยเช่าอยู่ด้วยก็ไม่ควรเกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน หากมากกว่านั้นก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาทางการเงินได้ในอนาคต ดังนั้นอาจจะต้องคำนวณสถานการณ์ทางการเงินของตนเองอย่างรอบคอบเสียก่อน

3. ลดรายจ่าย

การทำบัญชีรายรับรายจ่าย เป็นเรื่องยากมากที่ใครจะทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างสม่ำเสมอแน่นอน แต่การทำบัญชีรายรับรายจ่ายก็เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ และสามารถทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นได้ ซึ่งก็จะสามารถวางแผนอนาคตทางการเงินโดยไม่พลาด มีวินัยทางการเงิน ไม่สับสนเรื่องของที่ไปที่มาของเงิน 

4. เพิ่มรายได้

4. เพิ่มรายได้

เมื่อเราเริ่มลดภาระเรื่องหนี้ได้แล้วในระดับหนึ่ง แต่อย่างหนึ่งเลยก็จะต้องเริ่มจากการจัดการจากต้นตอปัญหาเสียก่อน เพราะการเป็นหนี้เริ่มจากการที่เรามีรายได้ไม่เท่ากับรายจ่ายที่จ่ายไป และทำให้ต้องเริ่มไปหยิบยืมเงิน หรือการกู้เงินมากจากที่อื่นเพื่อให้เพียงพอกับรายจ่ายที่เรามี ดังนั้นหากช่วงที่สถานการณ์ทางการเงินไม่สู้ดีนักก็อาจจะต้องหาช่องทางเพิ่มรายได้ให้มากขึ้น เช่น การทำพาร์ทไทม์ การเขียนงาน การทำงานล่วงเวลา เพื่อเพิ่มรายได้ของเราในแต่ละเดิน และอาจจะเพิ่มได้เดือนละ 10,000 บาทขึ้นไปเลย เป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลย ซึ่งส่วนนี้ก็จะช่วยลดปัญหาทางการเงินไปได้มากเลย อาจจะเหนื่อยหน่อยในช่วงสถานการณ์ทางการเงินไม่ดี แต่รับรองเลยว่าถ้าได้ผ่านช่วงสถานการณ์นี้ไปได้ เราจะแกร่งขึ้นมากเลย

5. การขายสินทรัพย์บางอย่างเพื่อปลดหนี้เสียก่อน

ข้อนี้อยากให้เป็นตัวเลือกสุดท้ายที่จะเลือกทำ เพราะการขายสินทรัพย์บางอย่างเพื่อเป็นการเคลียร์หนี้ก่อนก็จะเป็นทางเลือกที่ดีมาก ๆ เลย เพราะสินทรัพย์บางอย่างก็อาจจะไม่ได้ก่อให้เกิดรายได้ให้มากขึ้นได้ อาจจะมีแต่เพิ่มค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้นก็จะต้องตัดสินใจว่าจะขายสินทรัพย์ประเภทไหน เพื่อทำให้เราปลดหนี้ได้ทั้งหมด เมื่อทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว หนี้สินทั้งหมดแล้ว เมื่อสถานะทางการเงินดีแล้วค่อยกลับมาซื้อใหม่ ก็จะเป็นทางเลือกที่ดีมากกว่าที่จะปล่อยให้เราเป็นหนี้สินเหมือนเดิม

ดังนั้นการเป็นหนี้ไม่ได้เป็นเรื่องที่เลวร้ายขนาดนั้น แต่การมีหนี้นั้นเป็นสิ่งที่เราได้วางแผนผิดพลาดเรื่องการเงินไป จึงทำให้เกิดหนี้สินได้ แต่การเป็นหนี้ นั้นก็ถือว่าเป็นปัญหาหนักที่สุดสำหรับเรื่องการเงิน หากใครที่เป็นหนี้เยอะมากจนแทบจะหมดตัวเลย ก็บอกได้เลยว่าเป็นปัญหาที่ยากมากจริง ๆ ที่จะแก้ไขได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราจะแก้หาทางออกไม่ได้ ดังนั้นทุกการมีหนี้สิน เราก็จะหาทางออกได้เสมอ แต่เราจะต้องค่อย ๆ จัดการหนี้สินแต่ละอันอย่างค่อยเป็นค่อยไป และรับรองได้ว่าทุก ๆ คนสามารถผ่านปัญหาหนี้สินเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน แต่อาจจะใช้ระยะเวลานานหน่อย ก็จะผ่านไปได้อย่างแน่นอนอีกเช่นกัน

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG