5 Mindset การลงทุนที่นักลงทุนมือใหม่ต้องห้ามพลาดเลย

Mindset

Mindset ของการลงทุน เป็นหนึ่งในความคิดในหัวของเรา ที่ทำให้เป็นตัวกรองและการวางแผนทุกอย่างก่อนที่เราจะเริ่มลงทุน ซึ่งความคิดของเรานั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายในการลงทุนของเรา ซึ่งการที่เราคนหนึ่งจะมี Mindset ที่ดีได้นั้นจะต้องใช้เวลาและประสบการณ์เข้ามาช่วย เพราะในระยะเวลาแรก ๆ เราก็จะยังไม่รู้สถานการณ์ของตลาด ไม่รู้จักนิสัยของหุ้นในแต่ละตัว และสิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือเรายังไม่รู้จักข้อเสียข้อตัวเองพอดี

มาทำความรู้จักกับคำว่า “Mindset การลงทุน” 

มาทำความรู้จักกับคำว่า “Mindset การลงทุน”

Mindset ในการลงทุน คือ ความคิดในหัวของเรา ซึ่งจะเป็นตัววางแผนทุกอย่างก่อนที่เราจะเริ่มลงทุน ซึ่งความคิดของเราก็ควรที่จะสอดคล้องกับเป้าหมายในการลงทุนของเรา ตัวอย่างเช่น

ถ้าเป้าหมายการลงทุนของเรา คือการลงทุนในระยะยาว เราก็ต้องเฟ้นหาหุ้นที่มีพื้นฐานดี และหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอยู่ และถ้าหุ้นตกลงมาบ้างในระยะสั้นเราก็ไม่ควรจะตกใจจนเกินไป เพราะอย่าลืมว่าเป้าหมายของเรา คือการลงทุนเพื่อระยะยาว

แต่ถ้าเป้าหมายของเรา คือการเก็งกำไรในระยะสั้น เราก็อาจจะต้องหาหุ้นที่มีกราฟที่สวย จะทำให้เกิดสัญญาณซื้อ หรืออาจจะมีข่าวดีเข้ามาในช่วงนั้น ๆ 

5 “Mindset การลงทุน” ที่นักลงทุนมือใหม่มักทำพลาดในตลาดหุ้น

1. การที่เราคิดว่าการเทรดบ่อย ๆ ถึงจะดี 

ข้อนี้เจอบ่อยมาก ๆ สำหรับนักลงทุนที่เพิ่งเข้ามาในตลาดใหม่ ๆ ซึ่งพี่ทุยเข้าใจได้ว่าตอนเข้ามาใหม่ ๆ มักอยากจะเทรดบ่อย ๆ ยิ่งเทรดแล้วได้กำไรมันยิ่งสร้างกำลังใจ เวลาเห็นกำไรแล้วก็อยากรีบเพื่อรับรู้กำไร แต่ต้องอย่าลืมว่า “หุ้นเคลื่อนไหวเป็นแนวโน้ม” ตามที่เราได้เรียกรู้สายเทคนิคกันไป การที่เราซื้อ ๆ ขายกินคำเล็ก ๆ กำไรน้อย ๆ ไปเรื่อย

แล้วหากเกิดเจอจังหวะที่ตลาดเทแล้วเราตัดขาดทุน (Cut Loss) ไม่ทันอาจจะกลายเป็นเราขาดทุนคำใหญ่ แต่กำไรคำเล็กในระยะยาวจะทำให้พอร์ตไม่โต หรืออาจจะขาดทุนสะสมไปเรื่อย ๆ ก็เป็นได้

วิธีแก้นั้นง่ายมาก ๆ ต้องคิดไว้เสมอว่าหุ้นเคลื่อนไหวเป็นแนวโน้ม และเราจะขายหุ้นก็ต่อเมื่อหุ้นเปลี่ยนแนวโน้มเท่านั้น

2. จำเป็นต้องเทรดทุกวันหรือไม่

ซึ่งข้อนี้ก็เป็นสิ่งที่เจอบ่อยอีกหนึ่ง และสำคัญมาก ๆ ในตลาดลงทุนมือใหม่มักจะทำพลาดคือการอยากจะทุน อยากจะทำกำไร กดดันตัวเองมากจนเกินไป ซึ่งหมายความว่าเราอยากจะเทรดทุกวัน ถึงแม้ว่าวันนั้นตลาดจะไม่เอื้ออำนวย แต่เราก็ยังจะเทรด หากเป็นแบบนี้ก็ไม่ควรเท่าไร

หากวันไหนที่ตลาดไม่ได้เอื้ออำนวยหรือมีโอกาสที่เราจะขาดทุนมันก็ยิ่งสูงมากขึ้น เราก็จะมีวิธีแก้ Mindset ข้อนี้คือในช่วงแรก ๆ เราอาจจะแบ่งพอร์ตไว้ 2 พอร์ต คือพอร์ตหลัก (เงินทุนเยอะ) กับอีกพอร์ตหนึ่งที่เอาไว้เทรดในทุก ๆ วันให้หายอยาก ซึ่งพอร์ตนี้เราควรจะเอาเงินทุนใส่ไว้น้อย ๆ 

3. คิดว่าเปอร์เซ็นต์ขาดทุนเท่ากับเปอร์เซ็นต์กำไร

เชื่อว่ามีนักลงทุนบางคนคิดว่าเวลาที่เราขาดทุน เราสามารถเอากลับคืนมาได้ง่าย ๆ เพียงแค่ทำกำไรให้เท่ากับเปอร์เซ็นต์ที่ขาดทุนไป ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่เท่ากัน 

ตัวอย่างเช่น 

เรามีเงินทุนทั้งหมด 100,000 บาท เทรดหุ้นขาดทุนไป 10,000 บาท หรือคิดเป็น 10% ตรงนี้บางคนอาจจะคิดว่าเราก็แค่หาหุ้นที่ทำกำไรให้เราได้ 10% เงินเราก็กลับมาเท่าเดิมแล้ว 

แต่จริง ๆ มันไม่ใช่ เพราะพอเราขาดทุนจากการเทรดในครั้งแรกไป 10% หรือ 10,000 บาท เงินทุนเราจะเหลือ 90,000 เพราะฉะนั้นถ้าเราทำกำไรได้ 10% จากเงินทุน 90,000 เท่ากับว่าเราจะกำไรเพียง 9,000 บาท และเงินทุนเราทั้งหมดจะอยู่ที่ 99,000 บาท ไม่ใช่ 100,000 บาท 

ซึ่งถ้าเราเข้าใจตรงจุดนี้มันจะทำให้เราระมัดระวังการขาดทุนมากขึ้น เพราะเวลาที่ขาดทุน เราต้องเหนื่อยมากกว่าเดิมถ้าจะเอาเงินทุนก้อนนั้นกลับมาเท่าเดิมได้ 

4. อย่าหลงเชื่อความคิดคนอื่นมากเกินไป 

4. อย่าหลงเชื่อความคิดคนอื่นมากเกินไป 

เชื่อว่ามีนักลงทุนหลาย ๆ คนที่เราไม่ได้หาหุ้นทำกำไรเองในทุก ๆ ครั้ง เพราะเราอาจจะได้หุ้นมาจากเพื่อนบ้าง หรือคนรู้จักบ้าง ซึ่งถ้าเราได้หุ้นตัวนั้นมา แล้วกำไรก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าขาดทุนนี่แหละ คือปัญหา 

ซึ่งเราก็มีวิธีแก้ให้ความคิดนี้ดีขึ้นก็คือ หากในช่วงแรก ๆ เรายังหาหุ้นเองไม่ได้เราอาจจะถามเพื่อนในกลุ่มเรา ฟังตามกลุ่มนักเล่นหุ้น หรือเพจสอนหุ้นต่าง ๆ หรืออาจจะฟังนักวิเคราะห์ของโบรกต่าง ๆ ก่อน แต่ไม่ว่าเราจะหุ้นจากใครมาก็ตาม แนะนำให้เราเอาหุ้นตัวนั้นมาดู มาวิเคราะห์ด้วยตัวเองอีกทีก่อน ก็จะทำให้เราได้ฝึกตัวเองมากขึ้น และที่สำคัญ ถ้าเราจะซื้อหรือไม่ซื้อหุ้นตัวนี้มันก็จะมาจากการตัดสินใจของเราเอง ซึ่งมันจะทำให้เราพัฒนามากขึ้นเรื่อย ๆ 

5. เลือกการลงทุนแบบได้ไม่คุ้มเสีย 

ข้อนี้ไม่ใช่แค่นักลงทุนมือใหม่เท่านั้นที่เป็น แต่เชื่อว่านักลงทุนหลาย ๆ คนก็ยังเป็นอยู่ คำว่าลงทุนแบบได้ไม่คุ้มเสีย หมายถึงกำไรที่เราจะได้ในการลงทุนครั้งนั้นน้อยกว่าการขาดทุนที่อาจจะเกิดขึ้นในครั้งนั้น Risk Reward หาได้จากการเอาจำนวนเงินที่อาจขาดทุนได้จากการลงทุนในครั้งนั้นมาเปรียบเทียบกับกำไรที่เราอาจได้จากการลงทุนในครั้งนั้น 

เราก็ดู Mindset ทั้งหมดที่เป็นแนวคิดที่นักลงทุนมือใหม่มักจะทำพลาดกันง่าย ๆ  ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการลงทุน คือเราไม่จำเป็นที่จะต้องทำถูกทั้งหมด เพียงแต่ว่าเราต้องยอมรับความผิดพลาดของตัวเองในแต่ละครั้ง และแก้ไขข้อเสียข้อนั้น ๆ บวกกับพัฒนาจุดที่ดีแล้วให้ดีขึ้นไปอีก จุดนี้นี่แหละที่จะทำให้เราพัฒนาและเก่งมากยิ่งขึ้น

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG