เงินบาทแข็งค่า มีผลกระทบต่อการลงทุนอย่างไรบ้าง

เงินบาทแข็งค่า

เมื่อช่วงปลายปี 2565 เป็นที่ทราบกันดีว่า เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นมาก ๆ และเมื่อช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ค่าเงินบาทนั้นก็อ่อนตัวลงเพียงเล็กน้อย เมื่อเราได้เทียบกับเงินดอลลาร์ หากเทียบแล้วตั้งแต่เงินบาทปรับตัวจาก 32.50 บาท ไปจนถึง 35 บาท ซึ่งค่าเงินบาทอ่อนตัวเป็นอย่างมาก และไม่เป็นผลดีต่อธุรกิจหลาย ๆ แห่ง พร้อมกับทำให้การลงทุนนั้นไม่ว่าจะเป็นทั้งในประเทศและต่างประเทศนั้นยากมากขึ้นเช่นกัน 

เมื่อเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงเวลาหนึ่ง เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์และได้เริ่มกลับมาแข็งค่า แต่อาจจะไม่ได้กลับมาเท่าเดิม แต่ก็ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีแรงขายหุ้นกับตราสารหนี้ไทยออกมา เมื่อเงินบาทมีแนวโน้มว่าจะแข็งค่ามากขึ้น อาจจะต้องเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทที่แข็งค่า ได้แก่ เงินฝากสกุลเงินต่างประเทศ กองทุนรวมที่ไปลงทุนในต่างประเทศ และทองคำ เป็นต้น

ทำไมเงินบาทแข็งค่า เพราะเงินบาทปัจจุบันโดยเฉลี่ย 33 บาทต่อดอลลาร์ แต่เมื่อช่วงปี 2565 เงินบาทอ่อนตัวอย่างมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 35 บาทต่อดอลลาร์ แต่ในบางช่วงเวลาค่าเงินบาทก็สูงขึ้นเกือบจะถึง 38 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สูงมากที่สุดในหลายปีมานี้ แต่ในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่กี่เดือน เงินบาทก็เปลี่ยนจากค่าเงินอ่อนเป็นค่าเงินแข็งอย่างรวดเร็ว และเป็นค่าเงินบาทที่แข็งมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย 

ซึ่งเพราะเหตุใดถึงเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็ว มี 3 สาเหตุสำคัญ ได้แก่ 

1. เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าจากการลดขนาดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ 

1. เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าจากการลดขนาดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ 

ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่เป็นดัชนีวัดเงินดอลลาร์สหรัฐเทียบกับสกุลเงินต่าง ๆ พบว่าเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่าตลอดทั้งปี ซึ่งสิ่งที่สำคัญมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่รวดเร็วและแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะประกอบกับความเสี่ยงทั่วโลกที่ปะทุขึ้นตลอดเวลา ทำให้เกิดแรงดึงดูดหรือความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเงินดอลลาร์สหรัฐมีเพิ่มขึ้นกดดันให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นตามไปด้วย

ดังนั้นทำให้เม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนทั่วโลก จะเริ่มกระจายออกไปลงทุนนอกสหรัฐมากขึ้น เงินดอลลาร์สหรัฐจะเริ่มปรับตัวอ่อนค่าลง และทำให้เงินบาทเทียบกับดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทางตรงกันข้ามในทิศทางแข็งค่านั่นเอง

2. เศรษฐกิจโลกไม่ได้น่ากลัวและการเปิดประเทศของจีนช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก 

ปัจจัยสำคัญเป็นเพราะ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันยังไม่พบความเสี่ยงหรือเหตุการณ์เลวร้ายเพิ่มเติมจากเดิม ประกอบกับสัญญาณการชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed เพื่อจะช่วยลดโอกาสการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกลงไปได้บ้าง ตลอดจนการเปิดประเทศและการปลดล็อกให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางออกนอกประเทศได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี ทำให้การใช้จ่ายเงินและส่งผลต่อเศรษฐกิจที่ดีมากยิ่งขึ้น

สิ่งเหล่านี้จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลกทั้งในเรื่องการลงทุนเพิ่ม หรือการกระจายเม็ดเงินไปทั่วโลก และทำให้เกิดตลาดใหม่ในแต่ละประเทศมากขึ้นเช่นกัน

3. เศรษฐกิจไทยโตสวนกระแสโลกเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยครั้งแรกในรอบ 6 ปี

3. เศรษฐกิจไทยโตสวนกระแสโลกเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยครั้งแรกในรอบ 6 ปี

เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินสกุลนั้นคือ แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศนั้น ๆ เมื่อมองเศรษฐกิจไทย ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีขึ้นอย่างมาก ตั้งแต่ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย ทำให้เศรษฐกิจของในประเทศนั้นดีมากขึ้นเช่นกัน

ส่งผลให้ทั้งธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจร้านอาหาร และธุรกิจโรงแรม กลับมาคึกคักเช่นเดิม มีผลประกอบการที่ดีมากขึ้น แรงงานได้มามีรายได้เหมือนเดิม ซึ่งทำให้การบริโภคภายในประเทศก็ฟื้นตัวมากขึ้นอย่างมากเช่นกัน

แนวโน้มเงินบาทปี 2566

เงินบาทแข็งค่าและแข็งค่าที่สุดในเอเชีย จะได้แก่ เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า จีนเปิดประเทศ และเศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้น หากดูปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้นยังคงเป็นภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น ทิศทางเงินบาทปี 2566 นักวิเคราะห์ทั้งหลายส่วนใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็มีมองว่าจะอยู่ระหว่าง 32.0-33.0 บาทต่อดอลลาร์ หรือแข็งค่าขึ้นจากปีที่แล้วเฉลี่ยราว 7% 

เมื่อพอจะเห็นภาพทิศทางค่าเงินบาทตลอดทั้งปี 2566 แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องการแข็งค่าหรือการอ่อนค่าของค่าเงินมีปัจจัยเข้ามากระทบมหาศาลทั้งสิ่งที่เรารู้และพอคาดเดาได้ และสิ่งที่ไม่สามารถรู้ได้หรือประเมินเหตุการณ์ล่วงหน้าได้เลย ดังนั้น การคาดการณ์เงินบาทหรือเงินสกุลเงินอื่น เราจะให้คาดการณ์ได้อย่างถูกต้องเป็นเรื่องที่ยากมาก หรือในบางครั้งก็ไม่สามารถหาเหตุผลมาอธิบายได้ชัดเจน หากตอนนี้ใครกำลังได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่าก็ไม่ได้การันตีว่าจะได้รับตลอดไป ดังนั้น การวางแผนทางการเงินและการลงทุน รวมถึงการบริหารความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนจึงสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เรารักษามูลค่าของเงินและรายได้ในอนาคต

เมื่อเงินบาทไม่ว่าจะแข็งค่าหรืออ่อนค่า ก็มีผลกระทบมากมาย แต่เมื่อเราเข้าใจทั้งสาเหตุ ปัจจัยต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ส่งผลทำให้ค่าเงินแข็งและค่าเงินอ่อน และสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจ เพื่อทำให้สถานะทางการเงินนั้นดีมากขึ้นเช่นกัน ทั้งหมดนี้ก็จะทำให้เราสามารถเข้าใจทิศทางและสามารถคาดการณ์คร่าว ๆ เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อีกเช่นกัน

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG