การสร้างครอบครัว หรือการเริ่มต้นชีวิตครอบครัว คงจะเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คนที่อยากจะแต่งงาน มีลูก และมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่เราก็จะต้องเข้าใจก่อนเลยว่า การมีชีวิตคู่นั้นก็ไม่ได้มีเพียงความรักและความเข้าใจเท่านั้น แต่จะต้องมีการวางแผนทางการเงินที่ดีอีกด้วยเช่นกัน ถึงจะสามารถครองชีวิตคู่ได้ยาวนานมากขึ้น เพราะการอยู่ด้วยกัน มีลูก ก็จะมาพร้อมด้วยภาระหน้าที่ ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ดังนั้นจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเตรียมตัว เพื่อทำให้ชีวิตครอบครัวนั้นสุขสบายที่สุด
5 เทคนิคเริ่มต้นชีวิตครอบครัวที่ดี เป็นการเริ่มต้นชีวิตครอบครัวได้พร้อมมากที่สุด
1. บัญชีกองกลางของครอบครัว
เป็นบัญชีที่เราจะต้องคำนวณค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ซึ่งก็จะเป็นค่าใช้จ่ายพื้นฐานของครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าบ้าน ค่ารถค่าเดินทาง หรือจะเป็นค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ซึ่งเราจะต้องมาคำนวณว่าจะช่วยกันออกคนละเท่าไร ใครที่จะดูแลส่วนไหน ดังนั้นการที่มีบัญชีกองกลาง เพื่อที่รองรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
2. บัญชีเงินออมและสำรองเผื่อฉุกเฉิน
การมีเงินออมหรือเงินสำรองฉุกเฉิน เป็นหลักประกันว่าเราจะสามารถมีเงินเพื่อใช้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายได้อย่างน้อย 3 – 6 เดือน เพื่อไว้ใช้ในยามจำเป็น ในช่วงเวลาฉุกเฉินเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ตกงาน ประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วย ซ่อมแซมบ้าน หรือธุรกิจหมุนเงินไม่ทัน เป็นต้น ดังนั้นทางที่ดีก็ควรที่จะเก็บเงินแยกเพื่อส่วนนี้ไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ หรือกองทุนตลาดเงิน ที่จะมีสภาพคล่องสูง และสามารถถอนเงินออกมาใช้ได้ภายใน 1 – 2 วัน
ตัวอย่างบัญชีเงินออม
การฝากประจำ เป็นการลงทุนง่าย ๆ ที่ได้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยตามแต่ละธนาคารกำหนดไว้ ซึ่งจะได้ดอกเบี้ยมากกว่าการออมทรัพย์ทั่ว ๆ ไป ดอกเบี้ยการฝากประจำจะอยู่ที่ประมาณ 1% – 3% และการฝากประจำแบบปลอดภาษี จะมี 12 เดือน และ 24 เดือน สำหรับบุคคลทั่วไป ที่สามารถฝากขั้นต่ำ 500 บาทต่อเดือน และดอกเบี้ยที่ได้รับก็ปราศจากภาษีด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน เมื่อค่าใช้จ่ายต่อเดือนในครอบครัว เดือนละ 20,000 บาท ดังนั้นจะต้องมีเงินสำรองอย่างน้อย 60,000-120,000 บาท
3. บัญชีการลงทุนของครอบครัว
เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะสร้างความมั่นคงระดับหนึ่ง อาจจะออมลงทุนทุกเดือน 10% ของเงินเดือน เพื่อมาต่อยอดผลตอบแทนให้กับครอบครัว ได้แก่ การลงทุนตราสารหนี้ กองทุนรวม หรือหุ้น เพื่อสะสมในระยะยาว เป็นต้น
ยกตัวอย่างกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ได้แก่
- กองทุนรวมตราสารหนี้ทั่วไป
เป็นการลงทุนตราสารหนี้ที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับเงินฝาก แต่มีผลตอบแทนที่สูงกว่า และกองทุนนี้มีที่มามาจาก หุ้นกู้ภาคเอกชนและภาคสถาบันทางการเงิน เป็นการลงทุนที่คุ้มครองเงินต้นของเราไว้
- กองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น
มีนโยบายที่เน้นการลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งการลงทุนในกองทุนนี้จะไม่มีความผันผวนมากเกิน ซึ่งข้อดีของกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น จะใช้เงินลงทุนน้อย เริ่มลงทุนในเงินหลักร้อยก็สามารถลงทุนได้ เป็นกองทุนที่มีสภาพคล่องสูง และสามารถลงทุนได้ทุกวันทำการ และได้รับผลตอบแทนคล้าย ๆ กับการฝากประจำ แต่ไม่จำเป็นต้องกำหนดเวลาการฝากเงินไว้เหมือนกับฝากประจำ
- กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล
เน้นการลงทุนประเภทนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินต้นและดอกเบี้ย และมีความเสี่ยงในการลงทุนที่ต่ำมาก
4. บัญชีอนาคตเพื่อลูกน้อย
บัญชีอนาคตเพื่อลูกน้อย เราจะต้องเริ่มจากการคำนวณจากค่าใช้ข่ายต่าง ๆ ได้แก่ ค่าอาหาร ค่าของใช้ทั่วไป ของเล่น ค่าการศึกษา หรืออาจจะมีค่าพี่เลี้ยงเด็ก ซึ่งจะมาในการออมเงินรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ บัญชีเงินฝากประจำ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่ได้รับเงินคืนตามเวลาที่กำหนดไว้ หรือจะเลือกเป็นกองทุนรวมหุ้น เพื่อสร้างผลตอบแทนให้กับลูกน้อยในอนาคต
หากต้องการให้ลูกน้อยเกิดมาในครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ เรียนสูง ๆ ในสถาบันที่มีชื่อเสียง ดังนั้นจะต้องตั้งเป้าหมายในการมีลูกไว้เป็นอย่างดี เพราะเราจะต้องคำนวณค่าใช้จ่ายให้เพียงพอจนกว่าลูกจะเติบโตทำงานได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากเช่นกัน
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อลูกน้อยเติบโตขึ้น พ่อแม่จะต้องมีหน้าที่ปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่าจะต้องรู้จักประหยัดอดออม เพื่อทำให้เรามีเงินสำรองในการใช้จ่ายอื่น ๆ เพื่อให้มีความมั่นคงทางการเงินและมีฐานะอันเป็นที่ยอมรับทั้งในวงสังคม เพราะเงินนั้นก็จะสามารถสร้างความสะดวกสบายให้กับตนเองอย่างมาก และก็ยังมีบทบาทที่สำคัญในการเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างมาก
5. บัญชีส่วนตัวเพื่อใช้จ่ายอื่น ๆ
แน่นอนว่าคนเราก็จะมีของที่เราอยากจะได้ ทั้งซื้อของใช้ส่วนตัว ช้อปปิ้ง เครื่องสำอาง เสื้อผ้า ของเล่น หรือเกมต่าง ๆ เป็นต้น ดังนั้นการแยกบัญชีใช้จ่ายของตนเองไว้ เพื่อทำให้เราเห็นการใช้จ่ายของเราอย่างชัดเจน ว่าถ้าเงินในบัญชีนี้เหลือน้อย ก็จะทำให้เรารู้ตัวได้ทันและประหยัดได้ทันเวลา
หากมีการวางแผนที่ดี ก็จะทำให้เรามั่นใจได้ว่า เราจะมีครอบครัวที่มั่นคงในระยะยาว เพราะหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันในอนาคต ก็จะทำให้เรามีเงินสำรองในชีวิตที่สามารถนำมาใช้ได้ทันเวลา หรือสร้างจะเป็นการสร้างความมั่นคงในพื้นฐานของลูกน้อยที่กำลังจะเกิดขึ้นมา ดังนั้นคนที่วางแผนที่ดีก็จะสามารถผ่านอุปสรรคได้ดีมากกว่าคนที่ไม่ได้วางแผนการเงินให้กับครอบครัวแน่นอน