ประกันลดหย่อนภาษีดีหรือไม่

ความรู้เบื้องต้นการเงิน

การเลือกซื้อประกัน หลาย ๆ คนก็จะเลือกซื้อเพื่อจะประกันชีวิตสุขภาพตัวเราเอง หรือจะเพื่อประกันอุบัติของตัวเราเอง แต่การซื้อประกันชีวิตและสุขภาพที่เราจ่ายเงินอยู่ทุกปีนั้นมีให้มากกว่าที่เราคิด ก็คือสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ซึ่งวันนี้เราจะมาดูข้อดีของการซื้อประกันและนำมาลดหย่อนภาษี เพื่อให้เราได้ประโยชน์ในทุก ๆ ด้าน 

การบริหารการเงินในยุคปัจจุบันนี้นั้น เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำอย่างมาก เพราะด้วยสถานการณ์ปัญหาเศรษฐกิจเงินเฟ้อไปทั่วโลก พร้อมกับวิกฤติการณ์โรคระบาดโควิด 19 ที่สถานการณ์กำลังจะดีขึ้น แต่ก็กระทบกับเศรษฐกิจ ที่ทำให้ทุกคนจะต้องประหยัด และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โลกและประเทศนั้น ๆ ดังนั้นการบริหารการเงินจะต้องให้ความสำคัญมาเป็นอันดับต้น ๆ เพราะยิ่งเรามีการจัดการที่ดีมากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น

อีกหนึ่งสาเหตุที่จำเป็นจะต้องเลือกซื้อประกันนั้นก็ นอกจากจะนำมาช่วยลดหย่อนภาษีได้แล้วนั้น ก็เป็นเพราะว่า ชีวิตของคนเรานั้นมีชีวิตที่จำกัดและสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่ประกันชีวิตนั้นจะช่วยบรรเทาปัญหาได้ในส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด แต่หากคนที่ไม่ได้ซื้อประกัน เมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแล้วก็จะเป็นผู้ที่ต้องดูแลส่วนนั้นเองทั้งหมด ดังนั้นแล้วเมื่อเราเห็นข้อดีตรงนี้แล้วอยากที่เลือกซื้อประกันอยู่หรือไม่ 

ประกันลดหย่อนภาษีดีหรือไม่

สาเหตุสุดท้ายที่อยากจะพูดถึงเป็นเรื่องของ การซื้อประกันเพื่อวางแผนในช่วงเวลาเกษียณ เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่เราจะไม่ได้ทำงานแล้ว ดังนั้นเราจะต้องวางแผนทางการเงินให้เป็นอย่างดีว่า ควรจะมีเงินเก็บเท่าไร แล้วในวัยเกษียณอยากจะมีเงินใช้จ่ายต่อเดือนเท่าไร รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพของตนเองอีกด้วย ดังนั้นประกันเพื่อวัยเกษียณก็เป็นอีกทางเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

ประกันนั้นมี 4 แบบที่สามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ ได้แก่ ประกันชีวิตแบบชั่วคราว ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ประกันออมเงินและประกันชีวิตแบบบำนาญ ซึ่งสามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท 

1. ประกันชีวิตแบบชั่วชั่วคราว

ประกันประเภทนี้จะเป็นประกันชีวิตที่จ่ายเบี้ยเพียงครั้งเดียว แต่จะมีช่วงระยะเวลาในการคุ้มครองชีวิต และรวมไปถึงความคุ้มครองเป็นจำนวนเงินที่เราจ่ายเบี้ยตามตกลงไปเท่านั้น หากเกินกว่านั้นก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองแล้ว และเงินที่จ่ายไปก็จะไม่ได้คืนเลย เช่น  เงินคุ้มครอง 2,000,000 บาท ชำระเบี้ยประกัน 8 ปี และคุ้มครองเพียงระยะเวลา 8 ปี หากในช่วง 8 ปีที่เราจ่ายค่าเบี้ยเราเกิดเหตุไม่คาดคิด คนข้างหลังก็จะได้รับเงิน 2,000,000 บาททันที แต่ในช่วงเวลา 8 ปีเรายังแข็งแรงดีมาก เงินค่าเบี้ยที่จ่ายไปก็จะไม่ได้รับเงินคืนใด ๆ 

2. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ 

ประกันประเภทที่เป็นประกันชีวิตแบบที่เราจะจ่ายค่าเบี้ยประกันในช่วงเวลาหนึ่ง เช่น 10 ปี – 20 ปี เพื่อที่จะสร้างความมั่นคงให้กับคนข้างหลัง และจะได้รับการประกันชีวิตไปตลอดชีวิตไปจนถึงอายุ 80-90 ปี  ส่วนใหญ่การทำประกันประเภทนี้ เพื่อเป็นมรดกให้กับลูก ๆ หรือคนรุ่นหลังต่อไป ที่ไม่อยากซื้อประกันชีวิตแบบไม่เสียเปล่าและยังคุ้มครองชีวิตเราตลอดชีพอีกด้วย

เบี้ยประกันชีวิตแบบตลอดชีพมีค่าเบี้ยไม่ได้สูงมาก พร้อมกับได้สิทธิในการลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท แต่จะไม่มีผลตอบแทนระหว่างระยะสัญญา 

3. ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์

3. ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์

ประกันชีวิตที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเป็นประกันชีวิตที่เมื่อจ่ายเบี้ยประกันแล้วก็จะได้รับเงินคืนที่มากกว่าที่เราจ่ายไป ซึ่งมีความคุ้มค่าและได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าประเภทอื่น ๆ  ซึ่งเราจะทราบว่าเราจ่ายค่าเบี้ยกี่ปี แล้วจะได้รับเงินคืนเท่าไร โดยส่วนใหญ่จะได้รับผลตอบแทนอยู่ประมาณ​ 2% – 4% ต่อปี และยังได้รับการคุ้มครองอีกด้วย รวมไปถึงสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก

ตัวอย่างเช่น ประกันสะสมทรัพย์แบบชำระเบี้ย 10 ปีและได้รับความคุ้มครอง 15 ปี พร้อมกับได้รับเงินคืนในปีที่ 15 รวมกับเงินคืนในแต่ละปี 10% ตามแต่ละประกัน

4. ประกันชีวิตแบบบำนาญ

ประกันชีวิตแบบบำนาญ เป็นการซื้อประกันแบบเพื่อใช้ในยามเกษียณ ซึ่งหากเราซื้อประกันตั้งแต่อายุน้อย ๆ ก็จะทำให้เราสามารถวางแผนทางการเงินได้ดีมากขึ้น แต่ว่าผลตอบแทนของประกันของประเภทนี้อาจจะไม่ได้มาก แต่สามารถทำให้เป็นเงินก้อนที่สามารถใช้ในยามเกษียณแน่นอน

ตัวอย่างเช่น อายุการจ่ายประกันเริ่มตั้งแต่อายุ 25 ไปจนถึงอายุ 55- 60 ปี และรับเงินบำนาญปีละประมาณ 10% ขึ้นอยู่กับแต่ละแผนประกัน ซึ่งผลประโยชน์หรือค่าตอบแทนที่ได้รับนั้นจะไม่ต้องเสียภาษี และยังสามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาในอัตรา 15% ได้เช่นกัน ซึ่งจะลดหย่อนสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี 

ดังนั้นการเลือกซื้อประกันนั้นก็มีความสำคัญอย่างมาก นอกจากจะได้รับความคุ้มครองเรื่องสุขภาพและชีวิตแล้ว ก็ยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย เพราะภาษีที่แต่ละคนจะต้องจ่ายนั้นเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยกันเลย ดังนั้นเราจะต้องรักษาสิทธิประโยชน์ของเราในการลดหย่อนทั้งหลาย เพราะทางสรรพกรนั้นจะมีอยู่ไม่กี่อย่างที่เราจะสามารถเลือกมาลดหย่อนได้ ซึ่งไม่เป็นเรื่องยากแน่นอนในการยื่นเรื่องขอลดหย่อนภาษีของเรา

แนะนำเว็บ : Bkkcar4cash รับจำนำรถ

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG