ระหว่าง ”ลงทุน” กับ ”ใช้หนี้” ควรจะเลือกแบบไหนดี

ความรู้เบื้องต้นการเงิน

การลงทุนและการใช้หนี้จะเป็นเรื่องที่เราควรจะใส่ใจอย่างมาก แต่ถ้าเรามีหนี้สินอยู่แล้ว เราควรจะจัดการกับการเงินของเราอย่างไรดี เราควรจะนำเงินไปลงทุน หรือจะนำเงินก้อนนั้นไปใช้หนี้ก่อนดี ดังนั้นเรามาดูกันว่าเราจะบริหารเงินอย่างไรดี เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวเรา ซึ่งก็จะเป็นปัญหาใหญ่กับผู้ที่มีหนี้สินอยู่ เมื่อเรามีเงินก้อน แต่ก็ไม่รู้จะเลือกทางไหนดี

เราจะมาดูเลือกลงทุนเสียก่อน ซึ่งสิ่งที่เราจะต้องดูเป็นอันดับแรก ได้แก่ อัตราดอกเบี้ย หรือ ผลตอบแทน เพราะการที่เราจะเลือกลงทุนนั้นจะต้องได้ผลตอบแทนที่มากกว่าอัตราดอกเบี้ยที่เราจะต้องใช้หนี้สิน และอีกเรื่องหนึ่งที่เราจะเลือกเส้นทางลงทุน ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ “ความเสี่ยง” ของการลงทุน เพราะการลงทุนก็จะมีความเสี่ยงที่อาจจะทำให้เราขาดทุนได้เช่นกัน 

เปรียบเทียบระหว่าง “ผลตอบแทน” และ “ดอกเบี้ยจ่าย”

เปรียบเทียบระหว่าง “ผลตอบแทน” และ “ดอกเบี้ยจ่าย”

มาทำความเข้าใจง่าย ๆ เลย ถ้าเรานำเงินไปลงทุน แล้วสิ่งที่เราลงทุนสามารถให้ “ผลตอบแทน” ที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไป หรือ อัตราดอกเบี้ยฝากประจำ ก็จะแนะนำให้นำเงินไปลงทุนเพื่อเป็นการต่อยอดเงินของเรา แต่หากได้ผลตอบแทนน้อยกว่าดอกเบี้ย ก็ควรจะนำเงินไปใช้หนี้ให้หมดก่อน ก็จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า 

เรามาดูวิธีการจัดการกับหนี้สินกันเสียก่อน หากเราเลือกที่นำเงินไป “ใช้หนี้” จะต้องมีการวางแผนทางการเงินอย่างไรดี ต้องมาทำความเข้าใจกัน 5 ทริคนี้เลย

1. แบ่งหนี้เพิ่มสินทรัพย์กับหนี้สูญเปล่าให้เป็น

การเป็นหนี้สิน ไม่ใช่เป็นสิ่งไม่ดีหรือควรจะหลีกเลี่ยงเสมอไป เพราะการสร้างหนี้ในบางครั้งก็สามารถช่วยสร้างรายได้และสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของเราได้เช่นกัน

ดังนั้นเรามาดูคำว่า หนี้เพิ่มทรัพย์และหนี้สูญเปล่าคืออะไร

หนี้เพิ่มทรัพย์ ได้แก่ หนี้ที่เกิดจากการนำไปซื้อทรัพย์สินที่ทำให้เกิดกระแสเงินสดเข้ามากกว่ารายจ่ายที่ต้องผ่อนชำระ เช่น การกู้เงินมาซื้อคอนโดมิเนียม หรือบ้าน ซึ่งอสังหาริมทรัพย์ก็จะสามารถปล่อยเช่าได้ และรายได้ในการปล่อยเช่าจะมากกว่าราคาผ่อนชำระในแต่ละเดือน เป็นต้น

หนี้สูญเปล่า ได้แก่ การสร้างหนี้ที่ก่อให้เกิดรายจ่าย เมื่อมีรายได้ก็จะต้องนำเงินไปชำระหนี้ ดังนั้นจะเป็นเงินรายจ่ายอย่างเดียว ไม่มีกระแสเงินสดเข้ามา

ดังนั้นการแบ่งแยกหนี้สินทั้ง 2 แบบแล้ว จะทำให้ทุกคนเข้าใจสถานะการเงินของตนเองมากขึ้น และจะช่วยจัดลำดับความสำคัญของรายได้ เพื่อให้เข้าใจและสามารถจัดการหนี้สินได้ทัน

2. การทำบัญชีให้ละเอียด

2. การทำบัญชีให้ละเอียด
  1. การทำงบฐานะการเงินส่วนบุคคล เป็นการรวบรวมรายการทรัพย์สิน ทั้งทรัพย์สินสภาพคล่อง เพื่อการลงทุนและทรัพย์สินส่วนตัว และนำมาหักลบกับหนี้สินทั้งหมด ก็จะทำให้เราทราบว่าเรามีความมั่นคงหรือสถานะทางการเงินที่แท้จริงของแต่ละบุคคล
  2. การทำงบกระแสเงินสด เป็นการเปรียบเทียบรายรับรายจ่าย ที่เกิดจากการทำธุรกิจหรือการทำงานที่ก่อให้เกิดรายได้

รูปแบบของงบกระแสเงินสด แบ่งออกเป็น 2 แบบ

  • ทางตรง (Direct Method) เป็นกระแสเงินสดที่เกิดจากการดำเนินงานในธุรกิจ
  • ทางอ้อม (Indirect Method) วิธีนี้จะเกิดจากการนำกำไรและการขาดทุนมาปรับปรุง ที่ไม่กระทบต่อเงินสด  ซึ่งจะเป็นกำไรขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์หรือผลกระทบจากปัจจัยอื่น ๆ

3. การจัดลำดับในการชำระหนี้สิน

เป็นการรวมรวบหนี้สินทั้งหมด ข้อมูลประกอบไปด้วย ยอดหนี้สินคงเหลือทั้งหมด อัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมต้องชำระ กำหนดการชำระหนี้สิน และต่อมาก็จะต้องรวบรวมข้อมูลรายรับรายจ่าย และทรัพย์สินต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งการรวบรวมข้อมูลข้างต้น เพื่อทำให้เราสามารถวางแผนและช่วยจัดลำดับในการชำระหนี้ได้ดีมากขึ้น เช่น ควรจะรีบชำระหนี้สินที่ดอกเบี้ยอัตราสูงก่อน เพื่อทำให้ลดรายจ่ายที่มาจากอัตราดอกเบี้ยก่อน เป็นต้น

4. หาตัวช่วยที่ทำให้หนี้หมดไวมากขึ้น

การชำระหนี้จะมีตัวช่วยในการรีไฟแนนซ์ การติดต่อโครงการหรือขอเจรจากับเจ้าหนี้ 

  1. การรีไฟแนนซ์  เป็นการทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง และยังเป็นการเปลี่ยนเจ้าหนี้ ซึ่งหลัก ๆเพื่อให้อัตราดอกเบี้ยลดลง และทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น ชำระหนี้ไม่เป็นหนี้เสีย
  2. โครงการช่วยเหลือหนี้สินและการขอเจรจากับเจ้าหนี้ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นมาในช่วงโควิด 19 ที่หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเข้ามาให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำ ในด้านการวางแผนเพื่อการชำระหนี้สิน รวมไปถึงการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อจัดการหนี้สิน

5. การเปลี่ยนพฤติกรรม

การเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นหนี้สินอีก ซึ่งจะเป็นวิธีการที่ยั่งยืน สิ่งที่ทำให้เป็นหนี้สินอยู่เรื่อย ๆ ก็เพราะการซื้อสินค้าเงินผ่อน การใช้เงินเกินตัว การใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย 

สิ่งเหล่านี้ผู้ที่ไม่อยากจะกลับไปเป็นหนี้โดยไม่จำเป็น ก็ควรจะปรับเปลี่ยนการใช้จ่ายให้เด็ดขาด และควรจะสร้างวินัยการออม ประหยัด และการสร้างรายได้ที่มากขึ้น ซึ่งก็จะทำให้เรามีเงินออม การลงทุนที่มากขึ้น รวมไปถึงสามารถต่อยอดในธุรกิจของตนเองได้มากขึ้น 

ดังนั้นระหว่างเลือก “ลงทุน” หรือ “ใช้หนี้” จะเลือกแบบไหนจะต้องดูให้ดี เพราะการเลือกลงทุนนั้นไม่ยาก แต่ลงทุนอย่างไรให้มีผลตอบแทนมากกว่าอัตราดอกเบี้ยทั่วไป และการใช้หนี้ก็จะต้องดู 5 ทริคในการใช้หนี้เลยค่ะ รับรองว่าหนี้สินหมดไว้แน่นอน ดังนั้นเลือกตามความเหมาะสมของแต่ละคนได้เลย 

ufabet

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG