ใครบอกว่าเล่นหุ้นก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ยาก จะต้องมีความรู้ จะต้องไปหาคอร์สเรียนก่อนที่จะมาเริ่มเล่นหุ้นได้ และหุ้นก็เป็นการลงทุนที่สร้างผลกำไรได้มหาศาลเลย ภาพลักษณ์ของคนเล่นหุ้นนั้นจะต้องดูเป็นคนมีฐานะระดับหนึ่งเลยทำให้มือใหม่ที่อยากจะลงไปในสนามเล่นหุ้นนี้จะต้องรู้สิ่งเหล่านี้ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน
เราจะมาดูข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเล่นหุ้นสำหรับมือใหม่กันค่ะ
1. “หุ้น” คืออะไร
หุ้น คือ สิ่งที่กิจการออกมาให้กับผู้ลงทุนเพื่อเป็นการแสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของตามสัดส่วนที่ถือครอง ถ้าหากเรามีสัดส่วนในการถือครองมากเท่าไร ก็จะมีสิทธิ์ความเป็นเจ้าของมากขึ้นเท่านั้น
เป้าหมายในการลงทุนของเรานั้นคืออะไร ซื้อก่อนที่เราจะไปเลือกลงทุนนั้น จำเป็นอย่างมากเลยที่จะต้องถามตัวเองว่า เป้าหมายในการลงทุนของเรานั้นคืออะไร เช่น ลงทุนเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ การเลือกลงทุนในหุ้นที่บริษัทกำลังเติบโต ราคาผันผวนมากก็อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกในการลงทุนที่ดี เป็นต้น
และความเสี่ยงที่แต่ละคนจะยอมรับได้ เพราะการลงทุนในตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนที่ดี ก็จะมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงมาก ซึ่งเราก็จะต้องรู้ว่าตัวเราเองยอมรับความเสี่ยงได้มากแค่ไหน เป็นต้น
และการลงทุนในตลาดหุ้นจะมีช่วงเวลาเปิดปิดตลาด ได้แก่
- ช่วงเช้า เปิดระหว่าง 9.55 – 12.30 น.
- ช่วงบ่าย เปิดระหว่าง 14.25 – 16.40 น.
2. จะหากำไรจากหุ้นได้อย่างไร
ซึ่งเมื่อเราไปซื้อหุ้น นักลงทุนนั้นจะคาดหวังกำไรอยู่ 2 ทาง ได้แก่ เงินปันผล (Dividend) และส่วนต่างของเรา (Capital Gain)
เงินปันผล (Dividend) คือ การปันผลกำไรของบริษัทคืนแก่ผู้ถือหุ้น เงินปันผลจะจัดสรรในปริมาณต่อหุ้นตายตัว ซึ่งผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลเป็นสัดส่วนกับการถือหุ้น นโยบายในการปันผลกำไรหลายรูปแบบ ได้แก่
- นโยบายเงินปันผลคงที่ จะเป็นการจ่าย 1 บาทต่อหุ้นในทุก ๆ งวด
- นโยบายอัตราปันผลคงที่ จะเป็นการจ่าย 20% ของกำไรสุทธิในทุก ๆ งวดปันผล
ส่วนต่างของราคา (Capital Gain) คือ ส่วนต่างของราคาที่เป็นบวก หรือ กำไรจากการที่เราลงทุนในสินทรัพย์ที่เกิดขึ้น จากการขายสินทรัพย์นั้นออกไปในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อมา
3. อยากจะซื้อขายหุ้น จะเริ่มจากตรงไหนดี
เริ่มจากที่เราจะต้องมีบัญชีที่เอาไว้ซื้อขายหุ้น หรือเรียกว่า “พอร์ตหุ้น” ซึ่งเราสามารถเปิดบัญชีกับทางโบรกเกอร์ได้เลย คล้ายกับการเปิดบัญชีธนาคาร และการเปิดพอร์ตหุ้นจะมีอยู่ 3 แบบได้แก่
- บัญชี Cash Account ซึ่งเป็นบัญชีที่เราจะวางเงินไว้ในพอร์ตเพียง 20% ก็สามารถซื้อหุ้นได้แล้ว
- บัญชี Cash Balance เป็นบัญชีที่เราจะต้องนำเงินเข้าไปฝากในพอร์ตก่อน ถึงจะทำการซื้อขายหุ้นได้ตามจำนวนเงินที่มี
- บัญชี Credit Balance เป็นบัญชีที่ไม่ต้องนำเงินของเรามาลงทุนทั้งหมก แต่สามารถกู้ยืมจากโบรคเกอร์ก่อนได้ ซึ่งแต่ละโบรกเกอร์จะกำหนดจำนวนเงิน แต่ว่าผู้ลงทุนจะต้องวางหลักประกันในการกู้ยืม หรือทางโบรกเกอร์ก็จะคิดดอกเบี้ยตามที่กำหนดไว้
4. เปิดบัญชีหุ้นให้เรา ได้ประโยชน์อะไร
ในมุมมองทางธุรกิจทางบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่รับเปิดบัญชีให้กับผู้ลงทุนจะได้รับค่าธรรมเนียมเมื่อเราซื้อขายหุ้น ซึ่งในปัจจุบันก็จะอยู่ประมาณ 0.08 – 0.25% ก็จะแล้วแต่ทางบริษัทว่าจะเรียกเก็บเท่าไร
ตัวอย่างเช่น ค่าธรรมเนียม 0.25% และหุ้นที่ซื้อมาในราคา 10 บาท เมื่อเราซื้อหุ้นเรียบร้อย ในบัญชีของเราก็จะโชว์ว่า 10.25 บาท ซึ่งเราก็จะขาดทุนทันที 0.25% ก็คือค่าธรรมเนียมของทางบริษัทนั้นเอง
ดังนั้นเมื่อเราจะเปิดบัญชีหุ้นกับทางธนาคาร ก็จะต้องถามให้ละเอียดเพื่อทำให้เรารู้ว่า ถ้าหากเราซื้อหุ้นนั้นจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับทางธนาคารเท่าไร เพื่อเราจะได้วางแผนในการซื้อขายหุ้นได้ถูกต้อง และไม่ทำให้เราขาดทุน
5. ขั้นต่ำในการเปิดบัญชี
การเปิดบัญชีเล่นหุ้นจริง ๆ แล้วไม่ได้มีขั้นต่ำ แต่ปกติในการซื้อขายหุ้นบางหุ้นจะต้องซื้อขั้นต่ำ 100 บาท แต่ถ้าเราจะเล่นหุ้นในราคาที่สูงกว่านี้ ก็จำเป็นที่จะต้องใช้เงินที่สูงกว่านั้น
6. ราคาหุ้นที่ขึ้นและราคาลงนั้นมาจากเงื่อนไขอะไร
ราคาหุ้นที่ขึ้น – ลง จะขึ้นอยู่กับความต้องการซื้อ – ขายของนักลงทุน ซึ่งจะเช่นเดียวกับกลไกทางตลาด ดังนั้นก็จะทำให้ราคาหุ้นในแต่ละวันนั้นจะไม่กัน หรือที่เรียกว่า “ราคาตลาด” และการตัดสินใจซื้อ – ขายของนักลงทุนแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แล้วทางมุมมองและการวิเคราะห์ จึงทำให้ราคาของหุ้นนั้นขึ้นลงตามความต้องการของตลาด
ทั้งหมด 6 ข้อควรรู้ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน ก็เป็นแนวความรู้ที่ประกอบการตัดสินใจในการลงทุนประเภทหุ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็จะเป็นข้อควรรู้ก่อนที่จะตัดสินใจเล่นหุ้น เพราะการลงทุนนั้นเราทุกคนจะต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนที่จะลงทุนเสมอ และจะต้องติดตามข่าวสารสถานการณ์ตลาดหุ้น รวมไปถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่กระทบต่อราคาหุ้น ทั้งราคาหุ้นที่ขึ้นและราคาลง หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ในการเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ในการลงทุนในหุ้น