มือใหม่หัดซื้อประกัน

ประกัน

การซื้อประกันสำหรับมือใหม่นั้นดูเป็นเรื่องยากมาก เชื่อว่าเป็นปัญหาสำหรับมือใหม่แน่นอน เพราะไม่รู้จะต้องรู้อะไรบ้างก่อนจะเลือกซื้อ แต่อย่างไรก็ตามขั้นตอนการซื้อประกัน ไม่ยากเท่ากันดูเงื่อนไขของประกันที่มีรายละเอียดเยอะมาก เพราะจะมีเงื่อนไขเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราอาจจะไม่สามารถใช้ประกันได้ และเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ทุกคนควรจะมีมากที่สุด ความสำคัญของประกันนั้นไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เราก็จะศึกษาข้อมูลให้ละเอียดถี่ถ้วน

เรามาดูขั้นตอนการเลือกซื้อประกันสำหรับมือใหม่กัน

1. ความต้องการของตัวเรา เป็นเรื่องที่ต้องรู้ก่อนอันดับแรก

1. ความต้องการของตัวเรา เป็นเรื่องที่ต้องรู้ก่อนอันดับแรก

เนื่องจากประกันชีวิตมีหลากหลายประเภท และหลายแบบอย่างมาก แต่ว่าการจะตอบโจทย์นั้นไม่เหมือนกัน ดังนั้นเราจะต้องรู้ก่อนว่าความต้องการของเรานั้นเป็นอย่างไร ซื้อประกันไปเพื่ออะไร

  • หากต้องการความคุ้มครอง จะต้องการความคุ้มครองเท่าไร
  • หากต้องการออมเงิน อยากจะออมเงินกี่ปี
  • หากต้องการเพื่อวัยเกษียณ อยากจะเกษียณเมื่อไร

สิ่งเหล่านี้เราจะต้องเริ่มคิดให้ชัดเจนก่อน เมื่อความต้องการของตัวเราชัดเจนแล้ว เราก็จะเลือกประเภทของประกันได้เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด

2. ซื้อประกันเราจะจ่ายไหวที่เท่าไร

2. ซื้อประกันเราจะจ่ายไหวที่เท่าไร

อย่างต่อมาเราจะต้องดูว่าค่าเบี้ยประกันต่อปีเราจะจ่ายไหวที่เท่าไร เพราะถ้างบประมาณของเรานั้นไม่สอดคล้องกับแผนประกันนั้น เราก็จะต้องมีการปรับเปลี่ยนแผนประกัน เพื่อทำให้ได้ความคุ้มครองที่เหมาะสมกับตัวเรามากที่สุด และสถานการณ์ทางการเงินของเรานั้นก็จะไม่ลำบากจนเกินไป หากเราไม่อยากจ่ายเงินให้สูญเปล่าก็อาจจะต้องเลือกประกันแบบสะสมทรัพย์ เป็นต้น

แล้วเราจะแบ่งเงินซื้อประกันอย่างไรให้เหมาะสมกับตัวเรา การแบ่งเงินซื้อประกันนั้นไม่ควรเกินปีละ 10% ของรายได้ของเรา เพราะรายจ่ายหลัก ๆ ของเราจะมีดังนี้

  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ประมาณ 30%
  • ค่าผ่อนอสังหาริมทรัพย์ ค่าผ่อนรถยนต์ ประมาณ ​35%
  • ภาษีต่าง ๆ และประกันสังคม ประมาณ​ 15%
  • เงินออมเพื่อเป้าหมายทางการเงิน ประมาณ ​10%
  • ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ รวมไปถึงประกันอุบัติเหตุ ประมาณ​ 10%

3. การเปรียบเทียบแบบประกันที่คุ้มค่ามากที่สุด

เพราะเนื่องจากผู้บริโภคก็จะต้องได้รับความคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งในปัจจุบันนี้เราสามารถเปรียบเทียบกับหลาย ๆ ที่ได้ในประเภทประกันเดียวกันว่าของที่ไหนคุ้มค่ามากที่สุด และเหมาะกับระยะเวลา งบประมาณ เป้าหมายในการซื้อประกันของเรามากที่สุด

ประเภทของประกันมีอะไรบ้าง มีอยู่ 5 แบบ

  1. ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา คุ้มครองแค่ช่วงเวลาที่จ่ายค่าเบี้ยเท่านั้น และความคุ้มครองตามที่ตกลงไว้
  2. ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ชำระค่าเบี้ยตามระยะเวลาที่ตกลง ได้แก่ 10 – 20 ปี แต่ได้ทุนประกันตลอดชีวิตจนถึง 80 – 90 ปี 
  3. ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นประกันที่จ่ายเบี้ยประกันแล้วจะได้รับเงินคืนมากกว่าค่าเบี้ยที่จ่าย เช่น จ่ายค่าเบี้ย 10 ปี แต่จะได้รับความคุ้มครอง 15 ปีพร้อมกับได้รับเงินคืน 10% ต่อปี
  4. ประกันชีวิตแบบบำนาญ ประกันที่ใช้ในยามเกษียณ ควรจะวางแผนตั้งแต่อายุน้อย ๆ เพื่อให้มีเงินใช้ในยามที่เราเกษียณ
  5. ประกันชีวิตแบบควบคู่การลงทุน เป็นประกันที่สามารถนำเงินค่าเบี้ยไปลงทุนได้ เพื่อเป็นการสร้างโอกาสในการลงทุนไปพร้อม ๆ กับมีประกันชีวิต

4. อ่านทำความเข้าใจเงื่อนไขของกรมธรรม์อย่างละเอียด

เพราะสินค้าประกันชีวิตเป็นสินค้าทางการเงินที่มีเงื่อนไขและรายละเอียดเยอะมาก ซึ่งเมื่อเราจะซื้อก็จะต้องถามรายละเอียดให้ชัดเจน เพื่อทำความเข้าใจให้ได้มากที่สุด และแนะนำให้อัดเสียงของผู้ขายประกันเลยจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด เพราะจะช่วยลดปัญหาเรื่องความเข้าใจผิดของประกันได้เยอะมาก เช่น จ่ายเบี้ยประกันกี่ปี ปีละเท่าไร ได้เงินคืนเท่าไน หากจ่ายเบี้ยประกันไม่ครบจะเป็นอย่างไร เป็นต้น

เพราะถ้าเราอ่านกรมธรรม์ไม่ละเอียด ก็จะทำให้เราไม่ได้รับความคุ้มครอง หรืออาจจะไม่ได้รับเงินคืนเลยแม้แต่บาทเดียว

5. อย่าลืมอ่านเรื่องภาษี

เพราะประกันนั้นมีค่ามากกว่าเป็นการประกันชีวิต ซื้อค่าเบี้ยประกันชีวิตนั้นสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้นห้ามลืมเด็ดขาดในการยื่นภาษี และจะต้องยื่นขอภาษีเงินคืนอีกด้วย และก็ยังเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่จำเป็นจะต้องเลือกซื้อประกันนั้นก็ นอกจากจะนำมาช่วยลดหย่อนภาษีได้แล้วนั้น ก็เป็นเพราะว่า ชีวิตของคนเรานั้นมีชีวิตที่จำกัดและสามารถช่วยลดความเสี่ยงที่ประกันชีวิตนั้นจะช่วยบรรเทาปัญหาได้ในส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด แต่หากคนที่ไม่ได้ซื้อประกัน เมื่อมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดแล้วก็จะเป็นผู้ที่ต้องดูแลส่วนนั้นเองทั้งหมด ดังนั้นแล้วเมื่อเราเห็นข้อดีตรงนี้แล้วอยากที่เลือกซื้อประกันอยู่หรือไม่ 

ตัวอย่างเช่น 

ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ ได้สิทธิในการลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท 

ประกันแบบบำนาญ ได้สิทธิในการลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 200,000 บาท

ประกันสุขภาพตัวเอง ได้สิทธิในการลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท 

ประกันสุขภาพพ่อแม่ ได้สิทธิในการลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท 

ประกันชีวิตเป็นสินค้าการเงินที่ดี ถ้าใครต้องการทำความเข้าใจกับประกันนั้น ก็ควรจะพูดคุยกับคนที่เป็นตัวแทนเกี่ยวกับประกัน เพื่อจะได้เปรียบเทียบข้อมูลสำหรับมือใหม่ เพราะการเปรียบเทียบข้อมูลนั้นก็จะทำให้เราได้ผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่ากับตัวเรามากที่สุด และทั้ง 5 ขั้นตอนข้างต้นที่ได้อธิบายมาก็จะเป็นขั้นตอนง่าย ๆ ที่ทำให้เราเข้าใจถึงวิธีการง่าย ๆ 

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG