บ้านหรือคอนโด ทั้งสองประเภทไม่ว่าเราจะเลือกแบบไหน อยู่ในทำเลไหน เราจะมาดูข้อดีข้อเสียของทั้ง 2 ประเภท และเราจะได้เช็กว่าแบบไหนเหมาะกับตัวเรามากที่สุด ทั้งไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิต การทำงาน เพื่อทำให้การเงินของเรานั้นไม่บานปลาย เพราะการซื้อบ้านหรือคอนโดที่ไกลจากตัวเมืองหรือที่ทำงานมาก ก็จะทำให้เราต้องจ่ายค่าเดินทางในแต่ละวันมากพอสมควร ดังนั้นเราจะต้องคำนวณทั้งรายได้และราคาอสังหาริมทรัพย์อย่างดีก่อนที่จะตัดสินใจ
1. งบประมาณ เป็นหนึ่งในตัวเลือกในการตัดสินใจ
งบประมาณ เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ที่เราจะต้องตัดสินใจ เพราะการกำหนดงบประมาณที่ชัดเจน จะทำให้เราเลือกซื้อบ้านได้พอดีกับสถานการณ์ทางการเงินของเรา และอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ต้องมีงบประมาณก็คือ การซื้อบ้านหรือคอนโด จะมีค่าใช้จ่ายแฝง ดังนี้
- ค่าจองหรือค่ามัดจำ ที่แน่นอนว่าจะมีราคาหลักหมื่นขึ้นไป
- ค่าดาวน์บ้าน คอนโด จะเป็นเงินส่วนที่ต้องเตรียมไว้ก่อนซื้อบ้าน อย่างน้อย 5% – 10% ของราคาบ้าน
- ค่าประเมินราคาในการขอสินเชื่อบ้าน เมื่อเราต้องการขอสินเชื่อบ้าน จะต้องให้ธนาคารมาประเมินราคาบ้าน ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 – 3,000 บาท
- ค่าจดจำนอง จะเป็นค่าธรรมเนียม ซึ่งจะคิดเป็น 1% ของวงเงินจำนอง
- ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งจะจ่ายให้กับกรมที่ดิน จะคิดค่าจดทะเบียนสิทธิ 2% จากราคาประเมิน
- ค่ามิเตอร์น้ำ – ไฟฟ้า จะเป็นค่าประกันมิเตอร์การใช้น้ำและไฟฟ้า
2. ทำเลและการเดินทาง เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยในการเลือกซื้อ
การเลือกทำเลไม่ว่าจะ คอนโด ก็จะต้องเลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ตัวเองมากที่สุด จะต้องเลือกให้เดินทางสะดวก ใกล้สถานที่ทำงานและอาจจะเหมาะกับคนกรุงเทพมากกว่าต่างจังหวัด เพราะส่วนใหญ่คอนโดจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า
ส่วนกับบ้าน ทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านทาว์โฮม ก็อาจจะเลือกออกไปไกลจากเมืองกว่า หรืออาจจะเหมาะกับผู้ที่ไม่ได้อาศัยในกรุงเทพ ด้วยราคาและการเดินทางที่อาจจะสะดวกมากกว่าคนกรุงเทพ แต่หากชาวกรุงเทพซื้อบ้านเดี่ยวหรือบ้านทาว์โฮมก็จะเดินทางยากกว่าการซื้อคอนโด และอาจจะต้องซื้อรถยนต์เพื่อใช้ในการเดินทาง อีกหนึ่งสาเหตุที่ชาวกรุงเทพประสบทุกวันแน่นอนได้แก่ รถติด ซึ่งจะทำให้เราเสียเวลาในแต่ละวันไปเปล่าประโยชน์ ดังนั้นในแต่ละคนจะต้องชั่งน้ำหนักก่อนจะซื้อให้ดี
3. ขนาดพื้นที่
ขนาดพื้นที่เป็นสิ่งที่สำคัญแรก ๆ ในการเลือกซื้อบ้านหรือคอนโด เพราะขนาดพื้นที่ที่เล็กมาก ๆ ถ้าอยู่หลาย ๆ คนก็จะทำให้เรารู้สึกอึดอัดได้ และพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ ก็จะลดน้อยลงมาก ซึ่งก็จะเหมาะกับการอยู่คนเดียว
ส่วนของบ้าน ขนาดพื้นที่ที่มีบริเวณกว้าง ๆ มีสนามหญ้า มีสวนสาธารณะใกล้ ๆ หรือในหมู่บ้านมีส่วนกลางก็จะทำให้เรารู้สึกปลอดโปร่งมากขึ้น และจะตอบโจทย์กับผู้ที่อาศัยเป็นครอบครัวมากกว่า
4. การบำรุงรักษา
บ้านและคอนโด เมื่อมีการอยู่อาศัยก็จะต้องมีการบำรุงรักษาเป็นเรื่องปกติมาก ๆ แต่ทั้ง 2 แบบก็จะมีการดูแลรักษาที่แตกต่างกันไป เช่น บ้าน ที่มีพื้นที่กว้างกว่า จะต้องดูแลทั้งภายในและภายนอกของตัวอาคาร แต่ส่วนของคอนโดจะเป็นเรื่องการดูแลรักษาภายในห้องของตัวเอง และจะมีช่างของทางคอนโดเข้ามาช่วยดูแลให้ และในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางของทางคอนโดนั้นก็จะเป็นเรื่องของค่าส่วนกลางที่ทางคอนโดนั้นเรียกเก็บตามขนาดพื้นที่ ซึ่งก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ รองรับ เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส พื้นที่สวน เป็นต้น ดังนั้นเราจะต้องดูค่าใช้จ่ายและคำนวณให้ดี เพราะบางทีค่าบำรุงของทางคอนโดที่เรียกเก็บก็อาจจะมากกว่าการบำรุงรักษาบ้านก็เป็นได้
5. ข้อจำกัดต่าง ๆ
ข้อจำกัดต่าง ๆ การอาศัยอยู่คอนโดก็จะมีข้อจำกัดมากกว่าการอาศัยอยู่บ้านแน่นอน ทั้งเรื่องของความเป็นส่วนตัว การเข้าออกตึก เป็นต้น เพราะการอยู่คอนโด การที่เราทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งการทำอาหาร การหากิจกรรมผ่อนคลาย ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เป็นต้น ก็จะทำให้เราจะมีความเกรงใจห้องข้าง ๆ เพราะเสียงอาจจะรบกวน กลิ่นที่ทำอาหารอาจจะสร้างปัญหาได้เช่นกัน หรืออีกเรื่องหนึ่ง ผู้ที่ชอบเลี้ยงสัตว์ ก็จะเป็นปัญหา คอนโดบางแห่งก็จะไม่อนุญาตให้เลี้ยวสัตว์
แต่การอยู่คอนโด ก็ไม่ได้จะพบเจอเรื่องเช่นนี้เสมอไป หากเราได้เจอเพื่อนร่วมชั้นที่ดี ก็จะทำให้เรามีความสุขที่จะอยู่อาศัยสำหรับผู้ที่รับได้กับสิ่งเหล่านี้
6. การลงทุน
การลงทุนจากประเภทอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะอสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นทุกวัน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือคอนโด ก็มีราคาที่สูงมาก ยิ่งเลือกทำเลที่ดี ก็ยิ่งทำให้ราคานั้นพุ่งสูงมากขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะให้เช่าหรือซื้อมาเพื่อขายทำกำไรก็ได้
ดังนั้นไม่ว่าจะบ้านหรือคอนโด จะเหมาะกับตัวเราหรือไม่ เราก็จะต้องเลือกให้ตามความเหมาะสมของแต่ละคน และเป็นเราจะต้องดูให้ดีก่อนจะตัดสินใจซื้อ ซึ่งจะต้องดูทั้งราคา เรื่องของเงื่อนไขประเภทต่าง ๆ ทั้งทำเล ขนาดพื้นที่ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และรวมไปถึงข้อจำกัดต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อทำให้ถูกใจและสามารถที่จะอยู่กับตัวเราได้นานมากขึ้น