เงินเฟ้อและเงินฝืดคืออะไร ส่งผลอะไรต่อเศรษฐกิจ

ความรู้เบื้องต้นการเงิน

เงินเฟ้อและเงินฝืดนั้นเป็นคำที่เรามักจะได้ยินอยู่บ่อย ๆ เพราะเป็นสิ่งที่กระทบกับเศรษฐกิจโดยตรง และจะกระทบต่อการเงินของทุก ๆ คนอย่างชัดเจน แต่ทั้งสองคำนี้จะมีข้อแตกต่างกันอย่างไร และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน จะต้องมาดูความแตกต่าง เพราะหากเราไม่เข้าใจก็จะทำให้เราปรับตัวให้เข้ากับเศรษฐกิจ ณ เวลานั้น ๆ ไม่ทัน ดังนั้นมาเริ่มดูตัวอย่างว่าความหมายของแต่ละคำนั้นมีความหมายอย่างไร

เงินเฟ้อและเงินฝืดคืออะไร ส่งผลอะไรต่อเศรษฐกิจ 1

เงินเฟ้อ (Inflation) คือ สภาวะที่ราคาสินค้าและบริการมีแนวโน้มปรับสูงมากขึ้น ก็คือ สภาวะของแพงขึ้น ก็จะเป็นช่วงเวลาที่ของเท่าเดิม แต่จะต้องจ่ายมากขึ้น เช่น ราคาข้าว เมื่อ 10 ปีก่อน ราคาจานละ 10 บาทต่อจาน แต่ในปัจจุบัน ราคา 40 – 50 บาทต่อจาน ซึ่งแพงกว่าสมัยก่อน 4 – 5 เท่าเป็นอย่างน้อย 

แล้วถ้าเป็นในช่วงสภาวะเงินเฟ้อ ประชาชนทั่ว ๆ ไปจะทราบได้อย่างไร ทางธนาคารแห่งประเทศไทยจะเป็นผู้ประกาศว่าจะอยู่ในสภาวะแบบไหน ซึ่งปกติแล้วโดยค่าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 2 – 3% ซึ่งเมื่อเงินเฟ้อจะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจอย่างมาก เพราะจะทำให้ราคาสินค้าและบริการทุกอย่างราคาพุ่งสูงขึ้น อาจจะเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเจ้าของกิจการที่สามารถทำกำไรได้มาก และสามารถลงทุนขยายกิจการได้ 

ถ้าหากเกิดสภาวะเงินเฟ้อที่สูงมากจนเกินไป ก็จะทำให้เกิดสภาวะ Hyper Inflation หรือเรียกว่าสภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจหรือกิจการจำเป็นจะต้องลดขนาดให้เล็กลง เพื่อให้ธุรกิจนั้น ๆ สามารถดำเนินต่อไปได้ ซึ่งการลดขนาดของธุรกิจก็จะเป็นการเลิกจ้าง หากเห็นได้ชัด ๆ จะเป็นช่วงวิกฤตโรคระบาดโควิด 19 ซึ่งทำให้หลาย ๆ ธุรกิจนั้นจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงาน

เงินเฟ้อและเงินฝืดคืออะไร ส่งผลอะไรต่อเศรษฐกิจ 2

เงินฝืด (Deflation) คือ สภาวะของการลดลงของระดับราคาและบริการทั่วไปในช่วงเศรษฐกิจในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งจะเป็นแนวโน้มที่ทำให้สภาวะเศรษฐกิจถดถอย และจะเกิดดังชีราคาผู้บริโภคนั้นติดลบ ซึ่งวิธีการแก้ไขปัญหาเงินฝืด ได้แก่ ธนาคารกลางจะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและทำให้เศรษฐกิจนั้นขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกด้วย 

ผลกระทบของสภาวะเงินฝืด

  1. สภาวะเงินฝืดจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ เพราะจำทำให้ผู้บริโภคนั้นมีความต้องการของสินค้าและบริการน้อยลง ดังนั้นผู้ผลิตก็จะต้องลดราคาเพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับผู้บริโภค และผู้บริโภคนั้นก็อาจจะหวังโปรโมชั่นที่ดีกว่าเมื่อก่อน
  2. สภาวะเงินฝืดจะเป็นการเพิ่มมูลค่าของหนี้อย่างแท้จริง หรือจะบอกได้ว่า เจ้าหนี้สบาย แต่สร้างความลำบากให้กับลูกหนี้ เพราะสภาวะเงินฝืดนั้นจะทำให้ประชาชนนั้นมีรายได้ลดลง นอกจากราคาสินค้านั้นมีการปรับลดลงแล้ว การจ้างงาน หรือรายได้ของธุรกิจนั้นก็จะมีการปรับลดลงเช่นกัน และอาจจะทำให้เกิดหนี้เสียขึ้นในประเทศมากขึ้น เพราะว่า ทุกอย่างมีการปรับลดลง แต่ยอดหนี้สินนั้นไม่ได้ปรับลดลง ก็อาจจะทำให้ประชาชนหรือธุรกิจนั้นจ่ายหนี้ไม่ไหวได้

สาเหตุที่ทำให้เกิดเงินฝืด ที่จะมาพร้อมกับเศรษฐกิจถดถอย

สัญญาณแรก ๆ ที่จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าจะเกิดสภาวะเงินฝืด ก็คือ การเกิดเศรษฐกิจถดถอย หรือ GDP ติดลบที่ติดต่อกันอย่างน้อย 2 ไตรมาส ซึ่งสัญญาณเหล่านี้จะหมายถึงว่าเศรษฐกิจนั้นกำลังชะลอตัว ทำให้ประชาชนนั้นมีรายได้ลดลง และมีการใช้จ่ายน้อยลงตามไปด้วย 

เงินฝืดควรจะแก้ไขอย่างไรดี

ซึ่งผู้ที่จะต้องแก้ไขและรับผิดชอบหลัก ๆ ได้แก่ รัฐบาลและธนาคารกลาง 

  1. ลดอัตราดอกเบี้ย นโยบาย ทำให้อัตราเงินกู้และเงินฝากปรับตัวลง ทำให้เกิดการลงทุนและการจ้างงานมากขึ้น
  2. การซื้อพันธบัตรรัฐบาลหรือเอกชน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของระบบการเงินมากขึ้น และนำมาเพื่อนกระตุ้นเศรษฐกิจ
  3. การลดสัดส่วนของเงินสดสำรองของธนาคารพาณิชย์ ทำให้มีเงินสดมากพอที่จะนำไปปล่อยเงินกู้ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดัชนีราคาผู้บริโภคนั้นจะเป็นการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ใช้จ่ายในแต่ละช่วงเวลา เช่น แผนการลงทุน คำนวณตัวเลข GDP เป็นต้น ซึ่งสามารถคำนวณด้วยราคาที่เปลี่ยนแปลงแต่ละสินค้า บริการตามที่สถิติแรงงานนั้นได้กำหนดไว้ เพราะการเปลี่ยนแปลงนั้นจะเป็นการสะท้อนต้นทุนของการใช้ชีวิตของเรา

จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคมาจากสิ่งใด

เป็นการเปรียบเทียบเวลาราคาระหว่างช่วงเวลาของสินค้าและบริการที่กำหนดมาแล้ว ซึ่งทำให้เป็นดัชนีการวัดต้นทุนของสินค้า เพื่อรักษาคุณภาพการดำรงชีวิตใช้ระดับเดิม ก็จะเป็นดัชนีการวัดต้นทุนการดำรงชีวิต ซึ่งดัชนีราคาผู้บริโภคจะสามารถสะท้อนเงินเฟ้อที่ที่แท้จริง โดยจะต้องคำนึงถึงคุณภาพและการเปลี่ยนแปลงเพื่อไปใช้สินค้าทดแทนของผู้บริโภค และจะส่งผลต่อสัดส่วนของสินค้าและบริการที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะมีอยู่ 2 สาเหตุที่จะต้องคำนึงคุณภาพและสินค้าทดแทน

ดังนั้นทั้งสภาวะเงินฝืดและเงินเฟ้อนั้นเป็นสิ่งที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจของเราทั้งนั้น ซึ่งเราทุกคนจำเป็นที่จะต้องรู้จัก การทำความเข้าใจกับสภาวะเหล่านี้และรวมไปถึงการติดตามข่าวสารเศรษฐกิจทั่งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อทำให้เราสามารถปรับตัวให้เข้ากับเศรษฐกิจในสภาวะนั้น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่ว่าจะสภาวะเงินเฟ้อหรือเงินฝืดก็จะมีผลกระทบต่อตัวเราและรอบข้างของเราเสมอ และทำให้เราสามารถประคองธุรกิจหรือการบริหารทางการเงินของเราได้อย่างคล่องตัวมากที่สุด 

บทความล่าสุด

หมวดหมู่

TAG